เนื้อเรื่อง “บ้านผีในบ้านฝัน

เขียน; รแชล ธรรมนนท์

บ้านผีในบ้านฝัน

  • ตอนที่ 1 สีหมอกในฝัน
  • บ้านสีเทาหมอกที่น่าจดจำและสร้างความสะเทือนใจในขั้วหัวใจไม่เคยลืม ณ ริมแม่น้ำThames

    รรินนั่งเขียนจม.ถึงศิวะ เสียงแววๆมาจากห้องใต้หลังคาบางครั้งจะได้ยินเสียงดังเหมือนเสียงนกบินและเสียงของฝาผนังกระทบกับแผ่นไม้เก่าๆ ทันใดนั้นมาตินเดินเข้ามาถาม “What are you doing my darling รริน”? รรินยิ้มด้วยใบหน้าที่สดชื่นหลังจากที่ได้สูญอากาศยามเช้ามืดจากริมแม่นำ้ Thames ในฤดูใบไม้ผลิตรรินถามมาติน “ว่าวันนี้เราไปจะเดินเล่นที่ Park ริมแม่นำ้ Thames ไหมค่ะ”? มาตินตอบรับ “Yes,we can” ด้วยใบหน้าอันหล่อเหลาและสำเนียงสไตน์ผู้ดีอังกฤษแท้แต่ใบหน้าของมาตินซ่อนเร้นความรู้สึกบางอย่างที่เก็บไว้เหมือนไม่อยากให้รรินได้เห็นหรือสัมผัสอารมณ์ที่แท้จริงของเค้าได้รรินใช้ชีวิตอยู่กับมาตินมาเกือบ 5 ปีแล้ว รรินแทบจะไม่รู้จักตัวตนหรือความคิดที่แท้จริงของมาตินเลย มาตินมีรูปหน้าเหมือนรูปปั้นพระเจ้ากรีซ Apollo ที่คมชัด, จมูกโด่ง,ดวงตาสีนำ้ตาลและผมสีดำ มาตินมีท่าท่างเป็นผู้ดีการแต่งกายเหมือนผู้ชายอังกฤษในหนัง English Classic ดูสุขุม,สงบนิ่งกิริยาทและมารยาทสเมือนเติบโตมาจากสังคมชั้นสูงจบการศึกษาชั้นยอดมาจากโรงเรียน Eton College มาตินใช้ชีวิตการทำงานด้านศิลปะมาตลอดเค้าเป็น Art dealer มาตินรักรรินและหวงมากไม่อยากให้ออกไปทำงานข้างนอกและไม่อยากให้เจอสังคมภายนอกมากอยากให้รรินเขียนรูปอยู่กับบ้านและใช้ชีวิตด้วยกันส่วนใหญ่ไปเล่นเทนนิสและท่องเที่ยวมาตินเริ่มเดินทางมากขึ้นรรินต้องใช้ชีวิตอยู่ในบ้าน The Moon Cottage on Thames เพียงลำพังเสมอๆในช่วงดึกคืนวันหนึ่งรรินเริ่มรู้สึกหนาวเยือกเย็นในบ้านหลังนี้ในคืนนั้นรรินฝันเห็นผู้ชายแก่มาเข้าฝันพยายามจะบอกอะไรบางอย่างกับรรินแต่รรินยังไม่เข้าใจด้วยสำเนียงและภาษาอังกฤษที่รรินยังไม่ดีพอรรินสะดุ้งตื่นกลางดึกตอนตี 3 ของวันที่มองเห็นพระจันทร์เพียงครึ่งซีกมีเมฆหมอกในคำ่คืนนี้ รรินรู้สึกเหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่น “ฉันคงเหงามากและหนาวมาก” รอบๆข้างของรรินเต็มไปด้วยบรรยายกาศที่ดูเยือกเย็นมีแต่ความว่างเปล่าของห้องสีครีมผสมสีเทาอ่อน อืม “ฟังเพลงหรือเปิดทีวีดีกว่า” รรินบอกกลับตัวเอง ทันใดนั้นเธอได้ยินเสียงจากห้องใต้หลังคาดังแก๊กๆและเสียงของลมโหยหวนจากข้างนอกรรินรีบวิ่งไปปิดประตูและล็อคกลอนอีกชั้นหนึ่งรรินพยายามมองออกไปในช่องรูเล็กของกลอนประตูเพื่อที่จะให้แน่ใจว่าไม่มีใครเข้ามาในบ้านยามวิกาลคืนนี้รรินมองทะลุช่องรูเล็กๆของกลอนประตูในใจของรรินที่เต็มไปด้วยคำถามจากความคิดที่เริ่มหวาดระแวงของรริน “ถ้ามีขโมยเข้ามาในบ้านเราจะทำอย่างไรดี” รรินคิดอยู่ในใจคนนะน่ากลัวกว่าผีอีก” รรินเริ่มจินตนาการกับเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น เธอนึกถึงเชือกไนลอนที่แข็งแรงยาวประมาณ 10 เมตร จะเอาไว้ผูกกับหน้าต่างชั้น 2 ในห้องนอนของรรินและมาติน ซึ่งมองลงไปด้านล่างจะเห็นสวนหลังบ้านที่ไม่ได้ติดกับเพื่อนบ้าน บรรยากาศในสวนใหญ่นี้ช่างดูว้าเหว่และลึกลับบ้านหลังนี้มี 7 ห้องนอนแต่ละห้องตกแต่งไปด้วย Wall Paper สีครีมและสีเทาบ้านหลังนี้มีการตกแต่งด้วย Wallpaper ลายดอกกุหลาบตามสไตน์ English Roses เป็น Wallpaper เก่าทีมีคุณภาพดีแต่โบราณ โบราณ รรินเริ่มวิตกกังวลกับการอยู่คนเดียวเมื่อมาตินต้องเดินทางเป็นเดือนๆรรินเริ่มใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่ London เพื่อไม่ให้จิตใจฟุ้งซ่านวันหนึ่งรรินได้เยี่ยมดูผลงานศิลปะที่ Royal Academy of Art; Monet ศิลปินยุค Impesstionist ในเย็นวันนั้นกลับบ้านมาด้วยความเหนื่อยหล้าแต่เต็มไปด้วยความสุขหลังจากได้ดูศิลปะของศิลปินที่มีชื่อเสียงของโลก “วันนี้โชคดีจริงๆที่ได้ชมผลงานมากมายจากนักสะสมทั่วโลกของ Monet เข้าแถวเกือบ 2 ชั่วโมงแต่ช่างคุ้มค่าจริงๆเลย” รรินรู้สึกประทับในผลงานศิลปะของ Monet เป็นอย่างมากทันใดนั้นเธอได้ยินเสียงประตูปิดดัง ปัง! รรินตกใจมากเพราะเธอจำได้ว่าได้ปิดประตูหน้าบ้านแล้วเธอรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที “บ้านหลังนี้อยู่ไม่ได้แล้ววันนี้ไปค้างคืนบ้านพี่ฝนดีกว่า” รรินเก็บเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วและหนุนหันออกจากบ้านทันที รรินเดินออกมาด้านหน้าบ้านที่มีต้นสนต้นไม้ใหญ่ที่มีอายุเกือบร้อยปีแต่มีลำต้นขนาดใหญ่กลับแยกออกมา 2 ลำต้นใหญ่สูง 20 เมตรเหมือนต้นไม้แฝดซึ่งมองจากดูน่ากลัวมากในยามพระจันทร์เป็นสีเหลืองดังคำ่คืนวันนี้.

    ผ่านไปอีก3วันเราจะฝันเห็นอะไรอีกหนอ”Please give me win a lottery number on this Saturday ., Sir” รรินบ่นพึมพัมเสียงทีวีแซกเป็นบทเพลงคลาสคิกของ Chopin ; Funeral March ในทำนองใช้สำหรับพิธีศพถึงการอาลัยของการจากไปของคนตายเสียงลมหวนจากนอกหน้าต่างฟังแล้วหดหู่เหมือนบทสวดที่ช่างโหยหวนถึงจากไปอย่างไม่หวนกลับมา”อุ้ย ตายแล้ว เราจะจิตนาการมากไป “good night รริน” หลังจากนั้นรรินก็พยายามข่มตานอนให้หลับแต่รรินยังหวาดระแวงและไม่อาจจะข่มใจนอนได้สนิทในคำ่คืนนี้ที่หนาวจับใจและแล้วเธอก็ฝันถึงเด็กผู้ชายคนหนึ่งแต่ฝันนั้นไม่ได้ดูน่าสะพึงกลัวเหมือนเมื่อคืนก่อนหน้านี้ทำให้รรินนอนหลับสบายอย่างไม่กังวลจนถึงเช้าวันใหม่.

    เช้าวันนี้รรินตั้งใจค้นหาว่าใครเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ก่อนที่มาตินจะซื้อบ้านหลังนี้มาหมู่บ้าน Englefield Green แถวนี้มีร้านอาหาร Italy และ The Pub อันเก่าแก่มีชื่อเสียงในหมู่บ้านใกล้ถนน Copper Hill มีสุสานเก่าและไม่ไกลจาก Air Force Memoriam – War II. รรินคิดว่าน่าจะมีคนพื้นที่ที่อาศัยอยู่แถวนี้และอาจจะรู้จักกับเจ้าของบ้านเดิมของบ้านThe Moon Cottage on Thames วันนี้ได้รับจดหมายตอบกลับจากศิวะเวลาผ่านมา 2 ปีมาแล้วที่ศิวะจบโทที่ Chelsea College of Arts และกลับไปอยู่เมืองไทยเป็นอาจารย์สอนศิลปะที่มหาวิทยาลัยชื่อดังของกรุงเทพ เมื่อก่อนหน้านี้เวลาเข้าไปลอนดอนเรามักจะไปหาศิวะที่มหาวิทยลัยและไปเดินเล่นที่ Tate gallery ด้วยกันเสมอเสียดายจังที่ศิวะกลับไปแล้วไม่อย่างนั้นศิวะคงจะช่วยรรินตามหาเจ้าของบ้านเดิมได้แน่นอนเพราะเค้ามีกลยุทธ์ในการหาข้อมูลและศิวะพูดภาษาอังกฤษได้ดีเยี่ยม จะได้พูดคุยกับคุณยายข้างบ้านสำเนียงออก Scottish People ซึ่งรรินฟังไม่รู้เรื่องเลย.

    ใส่ความเห็น

    บลอกที่ WordPress.com .

    ขึ้น ↑