เนื้อเรื่อง “บ้านผีในบ้านฝัน

เขียน; รแชล ธรรมนนท์

บ้านผีในบ้านฝัน

  • ตอนที่ 1 สีหมอกในฝัน
  • บ้านสีเทาหมอกที่น่าจดจำและสร้างความสะเทือนใจในขั้วหัวใจไม่เคยลืม ณ ริมแม่น้ำThames

    รรินนั่งเขียนจม.ถึงศิวะ เสียงแววๆมาจากห้องใต้หลังคาบางครั้งจะได้ยินเสียงดังเหมือนเสียงนกบินและเสียงของฝาผนังกระทบกับแผ่นไม้เก่าๆ ทันใดนั้นมาตินเดินเข้ามาถาม “What are you doing my darling รริน”? รรินยิ้มด้วยใบหน้าที่สดชื่นหลังจากที่ได้สูญอากาศยามเช้ามืดจากริมแม่นำ้ Thames ในฤดูใบไม้ผลิตรรินถามมาติน “ว่าวันนี้เราไปจะเดินเล่นที่ Park ริมแม่นำ้ Thames ไหมค่ะ”? มาตินตอบรับ “Yes,we can” ด้วยใบหน้าอันหล่อเหลาและสำเนียงสไตน์ผู้ดีอังกฤษแท้แต่ใบหน้าของมาตินซ่อนเร้นความรู้สึกบางอย่างที่เก็บไว้เหมือนไม่อยากให้รรินได้เห็นหรือสัมผัสอารมณ์ที่แท้จริงของเค้าได้รรินใช้ชีวิตอยู่กับมาตินมาเกือบ 5 ปีแล้ว รรินแทบจะไม่รู้จักตัวตนหรือความคิดที่แท้จริงของมาตินเลย มาตินมีรูปหน้าเหมือนรูปปั้นพระเจ้ากรีซ Apollo ที่คมชัด, จมูกโด่ง,ดวงตาสีนำ้ตาลและผมสีดำ มาตินมีท่าท่างเป็นผู้ดีการแต่งกายเหมือนผู้ชายอังกฤษในหนัง English Classic ดูสุขุม,สงบนิ่งกิริยาทและมารยาทสเมือนเติบโตมาจากสังคมชั้นสูงจบการศึกษาชั้นยอดมาจากโรงเรียน Eton College มาตินใช้ชีวิตการทำงานด้านศิลปะมาตลอดเค้าเป็น Art dealer มาตินรักรรินและหวงมากไม่อยากให้ออกไปทำงานข้างนอกและไม่อยากให้เจอสังคมภายนอกมากอยากให้รรินเขียนรูปอยู่กับบ้านและใช้ชีวิตด้วยกันส่วนใหญ่ไปเล่นเทนนิสและท่องเที่ยวมาตินเริ่มเดินทางมากขึ้นรรินต้องใช้ชีวิตอยู่ในบ้าน The Moon Cottage on Thames เพียงลำพังเสมอๆในช่วงดึกคืนวันหนึ่งรรินเริ่มรู้สึกหนาวเยือกเย็นในบ้านหลังนี้ในคืนนั้นรรินฝันเห็นผู้ชายแก่มาเข้าฝันพยายามจะบอกอะไรบางอย่างกับรรินแต่รรินยังไม่เข้าใจด้วยสำเนียงและภาษาอังกฤษที่รรินยังไม่ดีพอรรินสะดุ้งตื่นกลางดึกตอนตี 3 ของวันที่มองเห็นพระจันทร์เพียงครึ่งซีกมีเมฆหมอกในคำ่คืนนี้ รรินรู้สึกเหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่น “ฉันคงเหงามากและหนาวมาก” รอบๆข้างของรรินเต็มไปด้วยบรรยายกาศที่ดูเยือกเย็นมีแต่ความว่างเปล่าของห้องสีครีมผสมสีเทาอ่อน อืม “ฟังเพลงหรือเปิดทีวีดีกว่า” รรินบอกกลับตัวเอง ทันใดนั้นเธอได้ยินเสียงจากห้องใต้หลังคาดังแก๊กๆและเสียงของลมโหยหวนจากข้างนอกรรินรีบวิ่งไปปิดประตูและล็อคกลอนอีกชั้นหนึ่งรรินพยายามมองออกไปในช่องรูเล็กของกลอนประตูเพื่อที่จะให้แน่ใจว่าไม่มีใครเข้ามาในบ้านยามวิกาลคืนนี้รรินมองทะลุช่องรูเล็กๆของกลอนประตูในใจของรรินที่เต็มไปด้วยคำถามจากความคิดที่เริ่มหวาดระแวงของรริน “ถ้ามีขโมยเข้ามาในบ้านเราจะทำอย่างไรดี” รรินคิดอยู่ในใจคนนะน่ากลัวกว่าผีอีก” รรินเริ่มจินตนาการกับเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น เธอนึกถึงเชือกไนลอนที่แข็งแรงยาวประมาณ 10 เมตร จะเอาไว้ผูกกับหน้าต่างชั้น 2 ในห้องนอนของรรินและมาติน ซึ่งมองลงไปด้านล่างจะเห็นสวนหลังบ้านที่ไม่ได้ติดกับเพื่อนบ้าน บรรยากาศในสวนใหญ่นี้ช่างดูว้าเหว่และลึกลับบ้านหลังนี้มี 7 ห้องนอนแต่ละห้องตกแต่งไปด้วย Wall Paper สีครีมและสีเทาบ้านหลังนี้มีการตกแต่งด้วย Wallpaper ลายดอกกุหลาบตามสไตน์ English Roses เป็น Wallpaper เก่าทีมีคุณภาพดีแต่โบราณ โบราณ รรินเริ่มวิตกกังวลกับการอยู่คนเดียวเมื่อมาตินต้องเดินทางเป็นเดือนๆรรินเริ่มใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่ London เพื่อไม่ให้จิตใจฟุ้งซ่านวันหนึ่งรรินได้เยี่ยมดูผลงานศิลปะที่ Royal Academy of Art; Monet ศิลปินยุค Impesstionist ในเย็นวันนั้นกลับบ้านมาด้วยความเหนื่อยหล้าแต่เต็มไปด้วยความสุขหลังจากได้ดูศิลปะของศิลปินที่มีชื่อเสียงของโลก “วันนี้โชคดีจริงๆที่ได้ชมผลงานมากมายจากนักสะสมทั่วโลกของ Monet เข้าแถวเกือบ 2 ชั่วโมงแต่ช่างคุ้มค่าจริงๆเลย” รรินรู้สึกประทับในผลงานศิลปะของ Monet เป็นอย่างมากทันใดนั้นเธอได้ยินเสียงประตูปิดดัง ปัง! รรินตกใจมากเพราะเธอจำได้ว่าได้ปิดประตูหน้าบ้านแล้วเธอรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที “บ้านหลังนี้อยู่ไม่ได้แล้ววันนี้ไปค้างคืนบ้านพี่ฝนดีกว่า” รรินเก็บเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วและหนุนหันออกจากบ้านทันที รรินเดินออกมาด้านหน้าบ้านที่มีต้นสนต้นไม้ใหญ่ที่มีอายุเกือบร้อยปีแต่มีลำต้นขนาดใหญ่กลับแยกออกมา 2 ลำต้นใหญ่สูง 20 เมตรเหมือนต้นไม้แฝดซึ่งมองจากดูน่ากลัวมากในยามพระจันทร์เป็นสีเหลืองดังคำ่คืนวันนี้.

    ผ่านไปอีก3วันเราจะฝันเห็นอะไรอีกหนอ”Please give me win a lottery number on this Saturday ., Sir” รรินบ่นพึมพัมเสียงทีวีแซกเป็นบทเพลงคลาสคิกของ Chopin ; Funeral March ในทำนองใช้สำหรับพิธีศพถึงการอาลัยของการจากไปของคนตายเสียงลมหวนจากนอกหน้าต่างฟังแล้วหดหู่เหมือนบทสวดที่ช่างโหยหวนถึงจากไปอย่างไม่หวนกลับมา”อุ้ย ตายแล้ว เราจะจิตนาการมากไป “good night รริน” หลังจากนั้นรรินก็พยายามข่มตานอนให้หลับแต่รรินยังหวาดระแวงและไม่อาจจะข่มใจนอนได้สนิทในคำ่คืนนี้ที่หนาวจับใจและแล้วเธอก็ฝันถึงเด็กผู้ชายคนหนึ่งแต่ฝันนั้นไม่ได้ดูน่าสะพึงกลัวเหมือนเมื่อคืนก่อนหน้านี้ทำให้รรินนอนหลับสบายอย่างไม่กังวลจนถึงเช้าวันใหม่.

    เช้าวันนี้รรินตั้งใจค้นหาว่าใครเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ก่อนที่มาตินจะซื้อบ้านหลังนี้มาหมู่บ้าน Englefield Green แถวนี้มีร้านอาหาร Italy และ The Pub อันเก่าแก่มีชื่อเสียงในหมู่บ้านใกล้ถนน Copper Hill มีสุสานเก่าและไม่ไกลจาก Air Force Memoriam – War II. รรินคิดว่าน่าจะมีคนพื้นที่ที่อาศัยอยู่แถวนี้และอาจจะรู้จักกับเจ้าของบ้านเดิมของบ้านThe Moon Cottage on Thames วันนี้ได้รับจดหมายตอบกลับจากศิวะเวลาผ่านมา 2 ปีมาแล้วที่ศิวะจบโทที่ Chelsea College of Arts และกลับไปอยู่เมืองไทยเป็นอาจารย์สอนศิลปะที่มหาวิทยาลัยชื่อดังของกรุงเทพ เมื่อก่อนหน้านี้เวลาเข้าไปลอนดอนเรามักจะไปหาศิวะที่มหาวิทยลัยและไปเดินเล่นที่ Tate gallery ด้วยกันเสมอเสียดายจังที่ศิวะกลับไปแล้วไม่อย่างนั้นศิวะคงจะช่วยรรินตามหาเจ้าของบ้านเดิมได้แน่นอนเพราะเค้ามีกลยุทธ์ในการหาข้อมูลและศิวะพูดภาษาอังกฤษได้ดีเยี่ยม จะได้พูดคุยกับคุณยายข้างบ้านสำเนียงออก Scottish People ซึ่งรรินฟังไม่รู้เรื่องเลย.

    แผ่นดินอังกฤษที่แม่ไม่เคยลืม { England Country that I never forget }

    อ่าน, เขียน;โดย รแชล ธรรมนนท์

    ตอนที่ 3 คำพูดที่แสนประทับใจ

    หลังจากที่แม่ออกจากบ้านมาหลายเดือนวันหนึ่งแซมโทรศัพท์ถามถึงภาพเขียนที่เราเขียนด้วยกันในบ้าน The Thames “แม่ครับแซมขอภาพขียนรูปนั้นคืนได้ไหมแซมอยากจะเก็บภาพเขียนนั้นที่เรา 2 คนเขียนด้วยกันแซมไม่มีอะไรเป็นที่ระลึกที่เกี่ยวกับแม่กับแซมเลย” แซมพูดว่ามันสำคัญสำหรับแซมมาก “มันเป็นภาพเดียวที่เราเขียนด้วยกันในบ้านหลังนี้” แซมอยากเก็บไว้ในความทรงจำตลอดไปแม่วางสายโทรศัพท์ด้วยนำ้ตานองแม่ไม่เคยคิดว่าแซมรักแม่และมีความระเอียดอ่อนแซมนึกถึงแม่ขนาดนี้เชียวหรือบางครั้งแม่เคยต่อว่าตัวเองและน้อยใจแซมว่าไม่รักแม่เท่าไหรนัก แม่เคยคิดว่าแซมไม่เคยเห็นความสำคัญของแม่แต่มาถึงวันนี้แม่ร้องไห้ด้วยความประทับใจที่สุดที่แซมทำให้แม่เห็นคุณค่าของหัวใจดวงนี้. Amanda ( เพื่อนแม่ ) เดินมาที่รถแม่ยังร้องไห้อยู่แม่เล่าให้ Amanda ฟังว่าแซมพูดกับแม่เรื่องรูปเขียนที่เราเขียนด้วยกันเธอมองแม่ด้วยความเข้าใจแม่อยากขอบคุณพวกเค้าที่ทำให้แม่หัวเราะและมีกำลังใจในการทำงานแห่งใหม่นี้ แม่ดำเนินชีวิตไปวันๆแม่มีเพื่อนต่างชาติที่ดีและเข้าใจแม่มากแม่มีกำลังใจขึ้นเพื่อต่อสู้ชีวิตที่ต้องเดินไปในวันนี้และวันพรุ่งนี้อย่าไม่ท้อแท้. การกลับมาอยู่ที่อังกฤษในช่วงเวลาสั้นนี้ทำให้แม่เรียนรู้ชีวิตอีกมุมหนึ่งในฐานะคนต่างชาติที่เข้ามาพักอาศัยในประเทศอังกฤษดินแดนที่ให้การต้อนรับคนทุกชาติและการเข้าออกเสรีของกลุ่มยุโรปในยุคนั้นรวมถึงการปกครองของกลุ่ม Commonwealth of British Colonies ประเทศอังกฤษเปรียบสเมือนแผ่นดินยิ่งใหญ่และเป็นแผ่นดินที่สำคัญที่รองรับชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยอยู่อาทิเช่นอังกฤษปกครองประเทศอินเดียยาวนานมากกว่า 200 ปีในฐานะคนต่างชาติแม่คิดว่าแม่โชคดีที่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตที่ประเทศนี้ประเทศที่มีเรื่องราวประวัติศาสตร์มากมายแลัวแม่เชื่อว่าประเทศนี้ได้ให้โอกาสแก่คนมากมายเช่นกัน.

    แผ่นดินอังกฤษที่แม่ไม่เคยลืม …

    ผิดพลาด
    วีดีโอนี้ไม่มีอยู่
    แซมกับแม่ “เรื่องรูปเขียนที่เราเขียนด้วยกัน”

    ความทรงจำ

    สัญญากับตัวเองว่าวันหนึ่งจะต้องเขียนหนังสือ
    และสัญญากับแม่ว่าวันนี้จะต้องทำให้ได้

    จรึงๆคิดว่าถ้าเรามีเพื่อนฝึกเขียนไปด้วยกันก็เป็นการฝึกเขียนและพัฒนาไปด้วยกันเหมือนเป็นศูนย์รวมของการเขียนและเป็นกลุ่มเล็กๆเหมือนมุมหนึ่งในห้องสมุดเล็กของพวกเราและสำหรับนักเขียนใหม่ทั่วทุกทิศและทุกมุมมอง ที่อยากเรียนรู้การเขียนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษไปด้วยกันการเขียนนั้นมีหลายหลายรูปแบบ

    นักเขียนคนนี้อยากเขียนเรื่องสั้น นักเขียนคนนั้นอยากเขียนเรื่องราวต่างๆนาๆ
    เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กอายุแรกเกิด-5 ขวบ
    เขียนเรื่องราวของเด็กอายุหกหรือเจ็ดถึง 15 ขวบและเขียนเรื่องราวของเด็กวัยรุ่นและเรื่องราวสิ่งที่ตัวเองชอบ
    เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับศิลปะและงานอดิเรกต่างๆ
    เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา
    เขียนเรื่องราวการทำอาหาร
    เขียนเรื่องราวประสบการณ์การท่องเที่ยว
    เขียนเรื่องราวประสบการณ์การทำงาน
    เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตครอบครัวประสบประการต่างๆ
    เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับคนรักการเขียนในหลายๆแง่มุม มุมสว่างไสว และมุมมืดมิด
    หรือ
    เรื่องราวของคนรักหมา
    เขียนเรื่องราวของคนรักแมว
    เขียนเรื่องราวของคนรักม้าหรือรักปลา
    เขียนเรื่องราวของคนรักเสือ
    เขียนเรื่องราวของคนรักสิงโต
    เขียนเรื่องราวต่างๆอีกมากมาย ในหลายๆของมุมมอง มุมของฉัน มุมของเธอ และมุมของเรา
    เขียนในมุมมองในแงดี และแง่ร้าย
    จากหลายๆชีวิตในโลกกลมที่มีความกลมกลืนและความขัดแย้งหรือเขียนโลกกลมใบนี้ของพวกเราในหลายๆด้าน อยากให้คนหนึ่งอ่านแล้วอารมณ์ดีไปด้วยกันความจริงแล้วอยากให้เรา ขีดๆเขียน อะไรก็ได้ ที่ทำให้เรามีความสุขและคนอื่นก็มีความรู้สึกดีๆไปด้วยกันเหมือนลูกโซ่ที่คล้องตามไปด้วยกันอย่างต่อเนื่อง, ต่อเวลาและต่อกันและกัน

    My Writing with My new expressions

    นักเขียน: รัชนี (รแชล ) ธรรมนนท์

    ฉัน _เอง @ เรียนรู้ความคิดตัวเอง

    ช่วงที่ 1พระจันทร์ครึ่งดวงด้านเงามืด

    The dark side of the Moon
    ความเหงากับความรู้สึกมืดมิดของคนที่เศร้าหรือโรคซึมเศร้า ขอยกตัวอย่างเรื่อง บ้านผีในบ้านฝัน“คืนหนึ่งรรินมองพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวเหมือน ความคิดขาดหายไปและเริ่มเข้าใจความหมายของคำว่าเหงาความสุขที่ขาดหายไป” หวนคิดถึงอดีตความคึดถึงความห่างกันกับความสูญเสียความผูกพันและความรู้สึกว่าไม่มีความรักอย่างแท้จริง

    ความเหงาเปรียบสเมือนเงาที่อยู่เคียงข้างเราเหงานี้เหมือนเงาดำตามตัวเราสามารถเข้าถึงจุดอ่อนของเราได้ง่ายเงามืดนี้ช่างเข้าใจอารมณ์ที่ลึกซึ้งทางด้านอ่อนแอของตัวเราหรือสัมผัสจิตวิญญาณของเราได้อย่างคุ้นเคย.สำหรับนักเขียนการทำความเข้าใจตัวเองการรู้จักตัวเองในเรื่องของความเหงาเปรียบสเมือนเงาดำแทรกซึมเข้าไปในจิตใจเราได้ง่ายเหมือนเราเปิดใจเราต้อนรับตลอดเวลาที่ผ่านมาความเหงาเดินทางเข้าออกได้ทุกเสี้ยวนาทีไหลซึมตามอารมย์ที่เศร้าหมองได้อย่างรวดเร็ว เฉพาะฉนั้นการปรับอารมย์ของเราเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่เราต้องมีสติเมื่อรู้สึกว่าเงามืดที่ตามตัวเรานั้นได้สร้างเงาดำและสร้างพลังงานมากขึ้นและทวีคูณอย่างรวดเร็ว.ความจริงการเปลี่ยนตัวเองหรือการรักษาโรคซึมเศร้านั้นเราต้องอยู่กับเงามืดนี้อยู่ช่วงหนึ่งต้องทำความเข้าใจและหาทางออกไปด้วยกันโดยการให้เงามืดของเราอยู่แค่เป็นเพื่อนแบบชั่วครั้งชั่วคราวต้องรู้จัก control ด้วยการโอบอุ้มและเห็นใจตัวเองในด้านมืดนี้กลับเปลี่ยนอารมณ์ให้เป็นพลังด้านสว่างโดยการทำความเข้าใจแบบพิเศษคือการให้กำลังใจแก่ตัวเองคือไม่กลัวไม่กังวลและไม่กลุ้มใจกับสิ่งที่ผ่านมาและไม่กลัวกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง.ถ้าเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีหรือผิดหวังและสภาพอารมณ์นั้นยังอยู่กับเราในจิตใจคิดเสมอว่า

    นี้คือตัวเราแล้วเราจะรักตัวเราในทางที่เข้าใจตัวเองและความมั่นใจตัวเองว่าเราคือผู้มั่นใจตัวเองที่เข้มแข็งและจะพบชัยชนะความสุขของตัวเราเอง.

    นักเขียนเคยดูหนังฝรั่งอยู่เรื่อง นายตำรวจท่านหนึ่ง(เป็นโรคซึมเศร้า) และกำลังหมดกำลังใจในชีวิตพ่อของ เค้าได้กล่าวว่า “This is your ” เพราะสิ่งเหล่าอยู่ในตัวเราและจิตใจ..ความหมายคือเราต้องอยู่กับตัวเองในด้านความรู้สึกด้านดีหรือไม่ดีของตัวเองให้ได้แบบมีสติเราไม่สามารถวิ่งหนีตัวเองได้เปรียบสเมือนคือ รักตัวเองทั้งด้านดีและด้านลบและพยายามคิดว่าด้านดีของเรามีพลังที่แข็งแกร่งกว่าด้านลบเป็นล้านล้านเท่า.ผู้เขียนเชื่อว่าทุกคนเคยผิดพลาดเคยคิดผิดเคยเดินทางผิดและบางคนยังไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเดินทางผิดอีกต้องตั้งสติตั้งคำถามกับตัวเองว่าจะเติมความรักหัวใจดวงนี้ให้เต็มดวงให้ได้ด้วยตัวเอง.”A life in the pictures “เก็บภาพที่ดีที่สุดรูปภาพแห่งความทรงจำในอดีตนั้นให้ดีที่สุดอย่าเพิ่งท้อแท้กับอดีตที่ข่มขื่น เก็บภาพด้านดีมุมดีที่เกิดขึ้นและเป็นกำลังใจกับหัวใจดวงนี้โดยให้กำลังใจต่อไป การรักษาโรคซึมเศร้าคือการรักษาโรคโดยการรักตัวเองอย่างถูกต้อง, อย่าตำนิตัวเอง เราทำลายตัวเอวมามากแล้วควรเข้าใจโรคนี้ด้วยการเข้าใจตัวเอง, ทำในสิ่งที่ตัวเองรักแล้วไม่ทำให้ใครเดือดร้อนรักตัวเองและอยูกับตัวเองให้ได้.ความจริงโรคซึมเศร้าส่วนใหญ่นี้จะเข้ามาแซกซึมกับตัวเราแบบเราไม่รู้ตัวเปรียบสเมือนสภาพของอารมณ์เหมือนมาตามสายลม,ซึมเข้าไปในตัวเราและสะกดอารมณ์ของตัวเราให้เศร้าต้องพยายามควบคุมมอารมณ์ด้านลบไม่หวาดกลัวและไม่หวาดระแวงและต้องผลักดันให้อารมณ์ด้านแข็งให้มีพลังเกร่งมากกว่า.

    บทสนทนาที่เราค้นหามาจากตัวเองและเพื่อนๆ

    ผู้เขียนสรุปและเชื่อว่าเราอยากปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นทุกวันแต่เราต้องพยายามคิดดีว่าเราต้องมีความเชื่อมั่นในตัวของเราเองควบคุมตัวเองและอดทนกับตัวเองคืออยู่กับตัวเองแบบมีความสุข.

    ฉัน _เอง @ เรียนรู้ความคิด ช่วงที่ 2
    Balance

    ผู้เขียนขอยกตัวอย่างนิยายเรื่องหนึ่งที่ผู้เขียนแต่งขึ้น
    วันสุดท้ายของชีวิตมาตินขออยู่ที่บ้าน The Moon Cottage on Thames และขอให้วิญญาณนี้สิ่งสถิตที่นี้เหมือนที่ Mr. Brian Landford สร้างบ้านในฝันหลังนี้และขอจบชีวิตที่บ้านหลังนี้ความเศร้าโศกในครั้งนี้รรินไม่เข้าใจเรื่องบางอย่างที่ทำให้ผู้ชายสองคนนี้ถึงได้ตัดสินเช่นนี้และจบชีวิตเช่นเดียวกันรวมทั้งไม่เข้าใจสิ่งซ่อนเล้นที่แฝงลึกในห้วงความทุกข์รวมถึงความรู้สึกที่แท้ของเค้าได้เลยรรินรู้สึกถึงความเศร้าโศกในจิตใจอย่างใหญ่หลวงและไม่เข้าใจว่าทำไมมาตินถึงไม่ยอมรับความจริงที่ว่า “ความสุขอยู่ที่ใจ” รรินเริ่มตั้งคำถามว่าวิญญาณผีของคุณลุง Brian Landford ทำให้มาตินจบชีวิตลงแบบนี้หรือ !!!! รรินคิดทบทวนแล้วว่าคงไม่ใช่วิญญาณผีของคุณลุง Brian หรอกที่เอาชีวิตของมาตินไปแต่กลับเป็นจิตวิญญาณของเราหรือผีร้ายในตัวเราต่างหากที่สิงสถิตย์อยู่ในตัวมาตินมาตลอดและสิงสถิตย์ในตัวรรินด้วย รรินและมาตินไม่ Strong พอที่จะขจัดจิตวิญญาณหรือผีร้ายนี้และไม่มีพลังพอที่จะสู้กับความคิดในด้านลบและไม่มีพลังพอที่จะต่อสู้กับความโชคร้ายหรือเรื่องร้ายที่กำลังจะเข้ามาในตัวของมาตินได้และมาตินไม่สามารถเลือกสิ่งอื่นได้มาตินไม่เข้าใจความรักที่แท้จริงมาตินหลงยึดติดกลับสิ่งที่ไม่แน่นอนและความคิดในทางลบผสมผสานกับความทุกข์ในตัวเรานี้ได้แหละที่เป็นผีร้ายคอยทำลายตัวเรามากกว่าสิ่งอื่นในโลกนี้รรินนึกถึงคำพูดของพ่อว่า “รรินของพ่อเป็นเพชรที่มีค่าและจิตใจที่แข็งแกร่งและงดงามของรรินเป็นสิ่งที่พิเศษที่สุด” วันนี้รรินได้เข้าใจแล้วความหมายที่พ่อบอกกับรรินแล้วว่าตัวเราเท่านั้นที่จะต่อสู้ต่อไปเหมือนอย่างที่พ่อของรรินเป็นคนที่เข้มแข็งและมีพลังอำนาจในด้านความดีที่ไม่มีวันตายจากใจของรริน”ลาก่อนมาตินผู้ชายที่แสนดีที่รรินรัก”
    เนื้อเรื่องนี้ผู้เขียนขอยกตัวอย่างว่าในชีวิตจริงคนเรามีทางเลือกแต่เรามักมองไม่เห็นทางออกในด้านสว่าง (Positive) เมื่อมีปัญหาอารมณ์ด้านมืด (Negative) ของตัวเราเปรียบสเมือนจิตวิญญาณร้ายก็จะพยามยามควบคุมความคิดและความรู้สึกของตัวเราซึ่งอาจจะไม่ใช่ตัวตนของเราจริงๆเพราะเวลาเรามีปัญหาเรามักจะมองเห็นแต่ด้านมืดและมองไม่ค่อยเห็นทางสว่างซึ่งอาจจะริบรี่แต่เราต้องพยายามเดินหาทางออกซึ่งทุกทางทุกปัญหาต้องมีทางออกเสมอ.

    ฉัน _เอง @ เรียนรู้ความคิด ช่วงที่ 3
    เงินไม่ใช่ทุกอย่าง.Money is everything ?

    เงินกับความเหงา
    เงินคืออำนาจที่พาหลายๆชีวิตหลงทาง

    ความจริงคือเงินไม่สามารถทำให้โรคซึมเศร้าหายขาดจากความเจ็บปวดนี้ชีวิตเราเคยมีเงินมากมายแต่ก็หาความสุขที่แท้จริงไม่ได้ตัวเรายังรู้สึกเหงาอยู่ลึกๆ

    ความจริง ความเหงา เพราะเงินซื้อความสุขได้แค่ชั่วครู่ชัวคราวแต่เราไม่สามารถซื้อความสุขที่ยาวนานในจิตใจได้อย่างแท้จริง

    ความจริงตัวเรานั้นสำคัญมากกว่าสิ่งอื่นใดในโลก

    บางครั้งเงินอาจจะทำให้เราสับสนมากเกินไปความสำเร็จอยู่ที่ตัวเราความสุขอยู่ที่ใจชีวิตคนเรา

    บางครั้งชีวิตคนเราอยากคว้าหาความสำเร็จเปรียบเทียบคำว่าอยากคว้าดาวอยากเป็นดาวเด่น

    พอได้สิ่งนั้นมาเราก็ยังเหงาอยู่เหมือนคำพูดที่ว่า” ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว” ชื่อเสียงพอได้มาก็ต้องรักษาและบางครั้งเงินทองอาจหมดไปตามกาลเวลาแต่เมื่อถึงวันสุดท้ายของชีวิตมาถึงนั้นคือความสงบความสุขและความดีทิ้งไว้ตลอดกาล.

    ฉัน _เอง @ เรียนรู้ความคิด ช่วงที่ 4
    เพลงที่เราประทับใจMy favorite songs

    โรคซึมเศร้ากับการปรับอารมณ์ทางด้านเสียงเพลงกับบทเพลงที่บรรเลงทำนองไพเราะบรรเลงตามเสียงเพลงที่เข้าถึงอารมย์ได้ดีเวลาตอนที่ผิดหวังหรืออกหักเคยไหมฟังเพลงเศร้า, เพลงรัก, เมื่อเวลาอกหักแล้วกลับไม่รู้สึกเศร้ากับรู้สึกว่าบทเพลงบททำนองนี้ของดนตรีและการบรรยายของเสียงเพลงบรรเลงเหล่านี้ที่แสนโรแมนติกและแสนไพเราะเหลือเกินช่างมีความหมายเหลือเกิน.ความผิดหวังที่กำลังมาถึงนั้นเราต้องยอมรับความจริงเสมอว่าเราจะไม่กลัวและจะเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นและรู้สักกับตัวเองเสมอว่าเราจะโชคดีที่สามารถรักใครสักคนโดยเฉพาะเราจะมีหัวใจที่งดงามที่รักตัวเองได้ดี control ตัวเองได้อย่างชาญฉลาด.คงเหมือนสูตรวิทยาศาสตร์ที่มีทั้งขั่วบวกและขั่วลบต้องสมดุลย์กันประสบการณ์ที่ผู้เขียนปรับได้คือรู้สึกอยากขอบคุณนักแต่งเพลงอย่างมากมายที่ได้แต่งเพลงที่ไพเราะและทำให้เรารู้สึกเข้าถึงอารณย์ที่แท้จริงรวมถึงจะเข้าถึงบทประพันธ์เหล่านี้ได้อย่างเหมาะสมกับภาษาวรรณกรรมและภาษาดนตรีได้ดีการผสมผสานบรรเลงอย่างมีอิสระไ้ร้พรมแดนในห่วงอารมย์ของเราได้ยาวนานจำได้ว่าตอนเราเป็นเด็กเราเคยได้ยินบทเพลงหนึ่งที่แสนไพเราะและแล้วเวลาผ่านไปหลายปีจนถึงวันี้ถ้าเรามียินอีกครั้งเรายังจำเพลงนั้นกับเหตุกราณ์นั้นได้ดี และเราอาจจะจดไว้จนใกล้วันสุดท้ายของชีวิต… ไม่ใช่เฉพาะเพลงรักเท่านั้น.. ทุกๆเพลงที่เราฟังแล้วมีความสุขในส่วนตัวนักเขียนกว่านักแต่งเพลงจะสามารถแต่งเพลงหนึ่งได้จะต้องใช้จิตนาการและความเข้าใจถึงคำร้องที่สอคคล้องกันจนเป็นภาษาที่ไพเราะ.

    เพื่อนชื่อ  ริชาถามผู้เขียนว่า”อ้าวถ้าฟังเพลงรักเศร้าและจะไม่ทำให้เศร้ามากไปกว่าเดิมหรือ?
    ผู้เขียนตอบว่าการฟังเพลงเศร้าหรือเพลงอกหักนั้นให้พยายามนึกถึงเนื้อเพลงและบททำนองที่นักร้องนักแต่งเพลงอยากจะบอกเราต้องแยกอารมณ์เศร้าให้ออกแล้วเอาอารมย์ปลื้มปิติแทนคือตอบคำถามตัวเองว่าทำไมถึงรู้สึกดีไม่ควรรู้สึกไม่ดีกับตัวเองปรับจากความทุกข์เปลี่ยนเป็นความรักที่เราอยากได้สัมผัสและสัมผัสนี้ช่างมีความสุขที่เราเคยรับรู้มหัศจรรย์ที่เราสามารถเข้าใจตัวเอง รู้จักรักตัวเอง และภูมิใจตัวเองที่สามารถ control ฟังเพลงเศร้าได้ไพเราะถึงแม้เราจะผิดหวังแต่การผิดวังนี้คือสิ่งที่มีค่าที่เราภูมิใจที่ว่า”อกหักดีกว่ารักไม่เป็น”ในความหมายที่นักเขียนเข้าใจอย่างท่องแท้คือ ความรักความผิดหวังที่เกิดขึ้นกับเราได้แสดงว่าเราเป็นคนเป็นที่สมบูรณ์มีหัวใจที่ละเอียดอ่อนและงดงามเราเป็นคนพิเศษที่สามารถเข้าไปอยู่ในตำแหน่งนี้แล้วปรับอารมย์ให้มีความสุขกับบทเพลงนี้ที่แต่งให้เราเข้าใจถึงบทประพันธ์ท่วงทำนองที่แสนเศร้าเข้าถึงบทประพันธ์นี้ได้อย่างยอดเยี่ยม! ตัวเราต้องยอมตัวเองให้รู้จักคำว่ารักและเจ็บปวดแสดงว่าเรานี้กล้าหาญที่จะเผชิญความเป็นจริงคือเราเอาชนะใจในด้านลบของตัวเองได้”รักตัวเองเป็นเเละเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดให้แก่ตัวเราเอง

    ฉัน _เอง @ เรียนรู้ความคิด ช่วงที่ 5ความผิดหวังBroken Heart
    ง่ายๆนั้นคือเปลี่ยนจากความทุกข์เป็นความรักตัวเองในทางที่ถูก,เข้าใจตัวเอง,เข้าใจเหตุการณ์และเข้าใจเค้าคนนั้นนนน… ในเรื่องราวจริงๆถ้าเราได้คบกันมาระยะหนึ่ง เราน่าจะรู้จักตัวเราและตัวเค้าคนนั้นรวมถึงเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมาสร้างฝันของเรา? สร้างตัวเราให้มีความสุขก่อนดีไหม? สร้างตัวเรารักตัวเองให้ถูกทิศทางใส่ใจตัวเองให้ถูกเวลาดีก่อนไหม?เราให้คุณค่าตัวเองแล้วเราอาจจะเห็นคุณค่าของความรักหรือให้อภัยกับทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเราได้ดีแบบมีสติและมีความสุขความผิดหวังไม่ใช่คือ สิ่งที่สุดในชีวิตที่เราต้องการใช่ไหม ? ความสุขคือ สิ่งคือสิ่งที่สุดที่เราต้องการในทุกวันใช่ไหม?สำหรับผู้เขียนความสุขนั้นเราต้องการตลอดทุกๆนาทีจะว่าไปแล้วผู้เขียนต้องการทุกลมหายใจเข้าออกตามจังหวะหัวใจเต้นเลยด้วยซำ้.แต่ทำไมความรู้สึกที่ต้องการนี้มีความรู้สึกสุขแบบไปๆ มาๆ จะไป..มากว่าจะมา.. บางครั้งความสุขไปนานมากกว่าจะกลับมาอีก….ผู้เขียนเกือบหมดลมหายใจ.ความรักความสุขและความทุกข์มักเดินทางเส้นทางเดียวกันเสมอหรือสวนทางกันเสมอแล้วแต่ใจเรากำหนด.ขอยกตัวอย่าง ตอนคบกันเราเห็นแฟนเราเหมือนเทพบุรุษเมื่อเราได้แต่งงานกับเทพบุรุษคนนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่เราวาดฝันในจินตนานั้นคำตอบของผู้เขียนคือไม่มีใครเป็นอย่างที่เราต้องการไม่มีใครที่จะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างให้เราได้ และไม่มีใครจะรักเรามากกว่าตัวเราเอง.ไม่มีใครมาจะรู้จักตัวเราหรือเป็นตัวของเราได้ทังหมดใช่ไหม?ผู้เขียนเองกำลังหาคำตอบที่แท้จริง เจตนาคือปรารถนาที่จะแชร์ความหมายทั้งหมดนี้ด้วยกัน
    ได้คุยกับเพื่อนของเพื่อนชื่อ Mr. John Wales รู้สึกอย่างไรกับภรรยาที่อยู่ด้วยกันมา 46 ปีแล้วต้องการไปอยู่กับผู้ชายอีกคนหนึ่งซึ่งผู้ชายคนใหม่ชื่อ Chris (ไม่มีบ้าน, ไม่มีรถ, หม่มีเงิน อาศัยอยู่กับเต็นท์แต่ สิ่งที่Chris มีคือความสุขกับตัวเองตลอดเวลา, นิ่งและสงบแบบง่ายๆกับการมองชีวิต.)John ตอบว่าแรกรู้สึกแย่มากๆรู้สึกไม่ดีเลยลูกก็สงสารพ่อมากและอยากให้พ่อไม่ทุกข์และปราถนาให้พ่อมีความสุขจึงขอร้องให้ทำใจและแล้ว John ก็คิดได้ว่าถ้าเค้าทุกข์ ลูกก็ทุกข์และภรรยาของเค้าก็ทุกข์เช่นกัน John จึงเปลียนวิธีคิดว่าควรรักตัวเองให้มีตัวเองมีความสุขแล้วเค้าก็เห็นรักแท้ที่สามารถอยู่กับความรักแบบนี้ได้.

    ฉัน _เอง @ เรียนรู้ความคิด ช่วงที่ 6
    การใช้ชีวิตแบบพอดีLiving with balance ” living with peace and harmony every day”
    ชีวิตที่ดีที่สุดและรักษาความสุมดุลย์ของตัวเองนั้นพร้อมจะเดินไปอย่างมั่นคงในทุกวันของอุปสรรคเก็บภาพด้านดีมุมดีที่เกิดขึ้นและเป็นกำลังใจกับหัวใจดวงนี้โดยให้กำลังใจต่อไป.การรักษาโรคซึมเศร้าคือการรักษาโรคนี้โดยการรักตัวเอง, เข้าใจโรคนี้ด้วยการเข้าใจตัวเอง,ทำในสิ่งที่ตัวเองรักแล้วไม่ทำให้ใครเดือดร้อนรักให้เป็นอยูกับตัวเองให้ได้.จริงโรคนี้ส่วนใหญ่จะเป็นแบบไม่รู้ตัวอารมณ์เหมือนมาตามสายลม,ซึมเข้าไปในตัวเราและสะกดอารมณ์พยายาม ต้องพยายามควบครุมอารมณ์ด้านลบไม่หวาดกลัวและไม่หวาดระแวง
    สอนTeaching yourself ถามตัวเองว่าทำไมถึงไม่ชอบให้ใครสอนเราเราเองก็ไม่ชอบสอนใครเพราะความเป็นจริงไม่มีใครสอนเราเข้าใจตัวเรามากกว่าตัวเองในด้านอารมย์ครูที่จะสอนเราได้ดีและเราจะจำคือตัวเราเองเราต้องเป็นครูแก่ตัวเองเราต้องเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ตัวเองความเป็นจริงเราอยากให้คนที่ดีจริงๆคิดดีจริงๆสอนเราเสมอเคยได้ยินไหมที่เศรษฐีอยากเป็นขอทานนักเขียนเชื่อว่าเศรษฐีอยากเข้าใจความรู้สึกจริงๆตัวตนจริงๆของขอทานความเป็นจริงของการเป็นขอทานที่แท้จริงก็เป็นครูที่ดีของเราคือขอทานยอมรับความจริงว่าการขอคือการอยากให้คนแชร์ความเมตตาสงสารอยากใด้ความกรุณาแล้วเรามีโอกาสที่จะแชร์แล้วเราอยากมีตรงนี้ในทุกๆวันไหมแนะนำควรรับคำแนะนำที่ดีเพื่อปรับปรุงควรทำความเข้าใจตัวเองเพื่อรับสิ่งใหม่ที่ดีเข้ามาคำแนะนำที่ดีคือคุณค่าอันประเสริฐที่เป็นความสุขที่แท้จริงที่ไดรับ
    ความสุขHappy ต้องเชื่อมั่นเสมอเว่าทุกชีวิตทุกอารมย์ของเราแต่วัยและเวลาที่ผ่านมาจะต้องมีช่วงเวลาที่ดีหรือช่วงอารมณ์ที่ดีสุดในตัวเรา
    ความเจ็บปวด Painผู้เเขียนปรียนเทียบว่าถ้าเราจะรักอะไรหรือเข้าถึงบางสิ่งที่ซับสนในตัวเราลองมองตัวเองและเข้าใจในสิ่งที่พิเศษของตัวเราแล้วเราจะรู้ว่าเรามีสิ่งที่ดีสุดในตัวเองคือหัวใจที่แข็งแกร่งที่จะฝ่าฝันความทุกข์ในด้านจิตใจเราต้องการเฝ้ามองและคอยเตือนตัวเองตลอดเวลาบางครั้งทำไมถึงชอบโทษตัวเองว่าตัวเองผิดเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้วไม่สำคัญว่าใครผิดแล้วตอนนี้สำคัญที่ว่าทำอย่างไรที่จะไม่ผิดซำ้สองนี้คือสิ่งที่ต้องระวังGuiltyความผิดเกิดขึ้นแล้วทำอย่างไรถึงจะอยู่กับสิ่งนี้ด้วยกันได้ความผิดยิ่งใหญ่เกิดขึ้นแล้วเราจะอดทนได้ไหมและจะควบคุมดูแลจิตใจเราได้อย่างไรเชื่อว่าถ้าเราย้อนเวลาได้เราจะไม่ให้มันเกิดขึ้นเราต้องอยู่กับความผิดนี้ไปคู่กับตัวเราและเป็นเงาตามตัวเราตลอดทำอย่าวไรใจเราจะถึงจะนิ่งและความผิดนี้จะไม่ทำลายเรามากขึ้นจนเราแทบตายความตายคือสิ้นสุดกับความผิดนี้ใช่ไหมความมีสติเป็นสัจธรรมการดำรงชีวิตต่อไป

    ฉัน _เอง @ เรียนรู้ความคิด ช่วงที่ 7

    รางวัลแก่ชีวิตPrize
    มีพื่อนที่ดีคนหนึ่งบอกเราว่าถ้าผู้เขียนสามารถเขียนหนังสือได้ดีอาจได้เข้าแข่งขันรางวัลซีไรต์เรารู้สึกยินดีกับคำพูดแต่ความเป็นจริงได้แค่รางวัลแด่คนช่างฝันแล้วฝันนี้ไปให้ถึงก็พอให้รางวัลแก่ตัวเองรางวัลของความสุขนั้นมากมายกว่ารางวัลใดๆที่ยิ่งใหญ่ที่อยากได้แบบมุ่งหมั่นรางวัลที่ได้เห็นแม่มีความสุขจากรอยยิ้มที่แม่มีความสุขจริงๆรางวัลที่ได้เห็นพ่อที่แสนดีได้เห็นเรามีความสุขจริงๆรางวัลที่อยากแชร์ให้คนอื่นจริงๆด้วยความปราถนาการให้จริงๆรางวัลที่ให้กับคุณธรรมความความดีที่ไม่ปะปนกับความไม่ดีต่อสังคมรางวัลที่สามารถปรับสภาพความสูญเสียที่ไม่ทำให้ตัวเองเดินหลงทางรางวัลแก่ความดีที่ไม่เสแสร้งและปารถนาที่จะมีความสุขจริงๆรางวัลที่จะเข้าใความเจ็บปวดของตัวเองกับรางวัลทีทจะเข้าใจความเจ็บปวดของผู้อื่นรางวัลที่จะไม่โกรธกับความผิดหวังและรางวัลที่ไม่ทุกข์กับความจนแค่เพียงชั่วคราวรางวัลที่ให้ตัวเองโดยคิดดีกับคนอื่นรางวัลที่จะให้อภัยเมื่อรู้ความจริงว่าเราคิดร้ายในบางครั้งนั้นไม่ถูกรางวัลเมื่อเรารักตัวเองให้เป็นเป็นคนดีมีแต่ความสุขฝันฝันให้ไกลไปให้ถึงฝันอย่างมั่นคงไปอย่างแน่วแน่ฝันถึงอดีตที่แสนเศร้าที่ติดตามอย่างมีความสุขไม่ทุกข์อีกต่อไปฝันถึงอนาคตที่ไม่ไกลเกือบเอื้อมฝันอยากเป็นคนดีที่ดีจริงๆไม่ใช่เสร้งแสร้งตามสถานการณ์พาไปฝันให้คนดีเป็นมิตรแก่เราและคนไม่ดีไม่ให้เรารู้สึกเป็นศัตรูฝันอยากให้แม่มีความสุขฝันถึงพ่อที่แสนดีที่ไม่มีวันลืมความดีของท่านฝันอยากเป็นผู้ชนะในด้านจิตใจและคุณธรรมมากกว่ามีเงินมากแล้วไม่รู้คุณค่าของหัวใจที่ดีของตัวเองฝันถึงเพื่อนที่ดี, ฝันถึงคนดีทั่วไป,ตามหมู่บ้าน,ตามตำบลและฝันถึงคนดีที่แสนดีจริงๆทั่วบระเทศฝันยากให้เพื่อน, ฝันถึงเพื่อนรวมทาง, ฝันถึงความดีที่มีต่อกันฝัน

    เราอยากให้เพื่อนมีความสุขที่ได้ฝันถึงเพื่อนที่ดีและไม่มีแรงอิจฉาต่อกัน
    เรามีความสุขในทุกนาทีนั้นคือฝันที่เป็นจริงและความช่างวัลแด่คนช่างฝัน

    บลอกที่ WordPress.com .

    ขึ้น ↑