Blog

Introduce yourself and your blog

นักเขียน: รแชล ธรรมนนทิกุล

ฉัน _เอง @ เรียนรู้ความคิดตัวเอง ช่วงที่ 1
พระจันทร์ครึ่งดวงด้านเงามืด
The dark side of the Moon

ความเหงากับความรู้สึกมืดมิดของคนที่เป็นโรคซึมเศร้า “คืนหนึ่งรรินมองพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวเหมือน ความคิดขาดหายไปและเริ่มเข้าใจความหมายของคำว่าเหงาความสุขที่ขาดหายไป” หวนคิดถึงอดีตความคึดถึงความห่างกันกับความสูญเสียความผูกพันและความรู้สึกว่าไม่มีความรักอย่างแท้จริง/ (บางตอนของเรื่อง /บ้านผีในบ้านฝัน)
ความเหงาเปรียบสเมือนเงาที่อยู่เคียงข้างเราเหงานี้เหมือนเงาดำตามตัวเราสามารถเข้าถึงจุดอ่อนของเราได้ง่ายเงามืดนี้ช่างเข้าใจอารมณ์ที่ลึกซึ้งทางด้านอ่อนแอของตัวเราหรือสัมผัสจิตวิญญาณของเราได้อย่างคุ้นเคย.สำหรับนักเขียนการทำความเข้าใจตัวเองการรู้จักตัวเองในเรื่องของความเหงาเปรียบสเมือนเงาดำแทรกซึมเข้าไปในจิตใจเราได้ง่ายเหมือนเราเปิดใจเราต้อนรับตลอดเวลาที่ผ่านมาความเหงาเดินทางเข้าออกได้ทุกเสี้ยวนาทีไหลซึมตามอารมย์ที่เศร้าหมองได้อย่างรวดเร็ว เฉพาะฉนั้นการปรับอารมย์ของเราเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่เราต้องมีสติเมื่อรู้สึกว่าเงามืดที่ตามตัวเรานั้นได้สร้างเงาดำและสร้างพลังงานมากขึ้นและทวีคูณอย่างรวดเร็ว.ความจริงการเปลี่ยนตัวเองหรือการรักษาโรคซึมเศร้านั้นเราต้องอยู่กับเงามืดนี้อยู่ช่วงหนึ่งต้องทำความเข้าใจและหาทางออกไปด้วยกันโดยการให้เงามืดของเราอยู่แค่เป็นเพื่อนแบบชั่วครั้งชั่วคราวต้องรู้จัก control ด้วยการโอบอุ้มและเห็นใจตัวเองในด้านมืดนี้กลับเปลี่ยนอารมณ์ให้เป็นพลังด้านสว่างโดยการทำความเข้าใจแบบพิเศษคือการให้กำลังใจแก่ตัวเองคือไม่กลัวไม่กังวลและไม่กลุ้มใจกับสิ่งที่ผ่านมาและไม่กลัวกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง.
ถ้าเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีหรือผิดหวังและสภาพอารมณ์นั้นยังอยู่กับเราในจิตใจคิดเสมอว่า”นี้คือตัวเราแล้วเราจะรักตัวเราในทางที่เข้าใจตัวเองและความมั่นใจตัวเองว่าเราคือผู้มั่นใจตัวเองที่เข้มแข็งและจะพบชัยชนะความสุขของตัวเราเอง.
นักเขียนเคยดูหนังฝรั่งอยู่เรื่อง นายตำรวจท่านหนึ่ง(เป็นโรคซึมเศร้า) และกำลังหมดกำลังใจในชีวิตพ่อของ เค้าได้กล่าวว่า “This is your ” เพราะสิ่งเหล่าอยู่ในตัวเราและจิตใจ..ความหมายคือเราต้องอยู่กับตัวเองในด้านความรู้สึกด้านดีหรือไม่ดีของตัวเองให้ได้แบบมีสติเราไม่สามารถวิ่งหนีตัวเองได้เปรียบสเมือนคือ รักตัวเองทั้งด้านดีและด้านลบและพยายามคิดว่าด้านดีของเรามีพลังที่แข็งแกร่งกว่าด้านลบเป็นล้านล้านเท่า.
ผู้เขียนเชื่อว่าทุกคนเคยผิดพลาดเคยคิดผิดเคยเดินทางผิดและบางคนยังไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเดินทางผิดอีกต้องตั้งสติตั้งคำถามกับตัวเองว่าจะเติมความรักหัวใจดวงนี้ให้เต็มดวงให้ได้ด้วยตัวเอง.
“A life in the pictures “
เก็บภาพที่ดีที่สุดรูปภาพแห่งความทรงจำในอดีตนั้นให้ดีที่สุดอย่าเพิ่งท้อแท้กับอดีตที่ข่มขื่น เก็บภาพด้านดีมุมดีที่เกิดขึ้นและเป็นกำลังใจกับหัวใจดวงนี้โดยให้กำลังใจต่อไป การรักษาโรคซึมเศร้าคือการรักษาโรคโดยการรักตัวเองอย่างถูกต้อง, อย่าตำนิตัวเอง เราทำลายตัวเอวมามากแล้วควรเข้าใจโรคนี้ด้วยการเข้าใจตัวเอง, ทำในสิ่งที่ตัวเองรักแล้วไม่ทำให้ใครเดือดร้อนรักตัวเองและอยูกับตัวเองให้ได้.
ความจริงโรคซึมเศร้าส่วนใหญ่นี้จะเข้ามาแซกซึมกับตัวเราแบบเราไม่รู้ตัวเปรียบสเมือนสภาพของอารมณ์เหมือนมาตามสายลม,ซึมเข้าไปในตัวเราและสะกดอารมณ์ของตัวเราให้เศร้าต้องพยายามควบคุมมอารมณ์ด้านลบไม่หวาดกลัวและไม่หวาดระแวงและต้องผลักดันให้อารมณ์ด้านแข็งให้มีพลังเกร่งมากกว่า.

ผู้เขียนสรุปและเชื่อว่าเราอยากปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นทุกวันแต่เราต้องพยายามคิดดีว่าเราต้องมีความเชื่อมั่นในตัวของเราเองควบคุมตัวเองและอดทนกับตัวเองคืออยู่กับตัวเองแบบมีความสุข.

ฉัน _เอง @ เรียนรู้ความคิด ช่วงที่ 2

ความพอดี
Life is balance
ผู้เขียนขอยกตัวอย่างนิยายเรื่องหนึ่งที่ผู้เขียนแต่งขึ้น

วันสุดท้ายของชีวิตมาตินขออยู่ที่บ้าน The Moon Cottage on Thames และขอให้วิญญาณนี้สิ่งสถิตที่นี้เหมือนที่ Mr. Brian Landford สร้างบ้านในฝันหลังนี้และขอจบชีวิตที่บ้านหลังนี้ความเศร้าโศกในครั้งนี้รรินไม่เข้าใจเรื่องบางอย่างที่ทำให้ผู้ชายสองคนนี้ถึงได้ตัดสินเช่นนี้และจบชีวิตเช่นเดียวกันรวมทั้งไม่เข้าใจสิ่งซ่อนเล้นที่แฝงลึกในห้วงความทุกข์รวมถึงความรู้สึกที่แท้ของเค้าได้เลยรรินรู้สึกถึงความเศร้าโศกในจิตใจอย่างใหญ่หลวงและไม่เข้าใจว่าทำไมมาตินถึงไม่ยอมรับความจริงที่ว่า “ความสุขอยู่ที่ใจ” รรินเริ่มตั้งคำถามว่าวิญญาณผีของคุณลุง Brian Landford ทำให้มาตินจบชีวิตลงแบบนี้หรือ !!!! รรินคิดทบทวนแล้วว่าคงไม่ใช่วิญญาณผีของคุณลุง Brian หรอกที่เอาชีวิตของมาตินไปแต่กลับเป็นจิตวิญญาณของเราหรือผีร้ายในตัวเราต่างหากที่สิงสถิตย์อยู่ในตัวมาตินมาตลอดและสิงสถิตย์ในตัวรรินด้วย รรินและมาตินไม่ Strong พอที่จะขจัดจิตวิญญาณหรือผีร้ายนี้และไม่มีพลังพอที่จะสู้กับความคิดในด้านลบและไม่มีพลังพอที่จะต่อสู้กับความโชคร้ายหรือเรื่องร้ายที่กำลังจะเข้ามาในตัวของมาตินได้และมาตินไม่สามารถเลือกสิ่งอื่นได้มาตินไม่เข้าใจความรักที่แท้จริงมาตินหลงยึดติดกลับสิ่งที่ไม่แน่นอนและความคิดในทางลบผสมผสานกับความทุกข์ในตัวเรานี้ได้แหละที่เป็นผีร้ายคอยทำลายตัวเรามากกว่าสิ่งอื่นในโลกนี้รรินนึกถึงคำพูดของพ่อว่า “รรินของพ่อเป็นเพชรที่มีค่าและจิตใจที่แข็งแกร่งและงดงามของรรินเป็นสิ่งที่พิเศษที่สุด” วันนี้รรินได้เข้าใจแล้วความหมายที่พ่อบอกกับรรินแล้วว่าตัวเราเท่านั้นที่จะต่อสู้ต่อไปเหมือนอย่างที่พ่อของรรินเป็นคนที่เข้มแข็งและมีพลังอำนาจในด้านความดีที่ไม่มีวันตายจากใจของรริน”ลาก่อนมาตินผู้ชายที่แสนดีที่รรินรัก”

เนื้อเรื่องนี้ผู้เขียนขอยกตัวอย่างว่าในชีวิตจริงคนเรามีทางเลือกแต่เรามักมองไม่เห็นทางออกในด้านสว่าง (Positive) เมื่อมีปัญหาอารมณ์ด้านมืด (Negative) ของตัวเราเปรียบสเมือนจิตวิญญาณร้ายก็จะพยามยามควบคุมความคิดและความรู้สึกของตัวเราซึ่งอาจจะไม่ใช่ตัวตนของเราจริงๆเพราะเวลาเรามีปัญหาเรามักจะมองเห็นแต่ด้านมืดและมองไม่ค่อยเห็นทางสว่างซึ่งอาจจะริบรี่แต่เราต้องพยายามเดินหาทางออกซึ่งทุกทางทุกปัญหาต้องมีทางออกเสมอ.

ฉัน _เอง @ เรียนรู้ความคิด ช่วงที่ 3

เงินไม่ใช่ทุกอย่าง.
Money is everything ?
เงินกับความเหงา

เงินคืออำนาจที่พาหลายๆชีวิตหลงทาง
ความจริงคือเงินไม่สามารถทำให้โรคซึมเศร้าหายขาดจากความเจ็บปวดนี้
ชีวิตเราเคยมีเงินมากมายแต่ก็หาความสุขที่แท้จริงไม่ได้ตัวเรายังรู้สึกเหงาอยู่ลึกๆบางครั้งเหงามากเพราะเงินซื้อความสุขได้แค่ชั่วครู่ชัวคราวแต่เราไม่สามารถซื้อความสุขที่ยาวนานในจิตใจได้อย่างแท้จริง
ความเป็นจริงตัวตนของเรานั้นมีค่ามากกว่าค่าของเงิน
ความสุขในตัวเรานั้นสำคัญมากกว่าสิ่งอื่นใดในโลก
บาวครั้งเงินอาจจะทำให้เราสับสนมากเกินไป
ความสำเร็จอยู่ที่ตัวเราความสุขอยู่ที่ใจ
ชีวิตคนเราบางครั้งเหมือนไข้วคว้าหาดวงดาวพอถึงได้ตะกายถึงดวงดาวนั้นแล้วเราก็ยังเหงาอยู่เหมือนคำพูดที่ว่า” ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว”
ชื่อเสียงพอได้มาก็ต้องรักษาและบางครั้งเงินทองอาจหมดไปตามกาลเวลาแต่เมื่อถึงวันสุดท้ายของชีวิตมาถึงนั้นคือความสงบความสุขและความดีทิ้งไว้ตลอดกาล.

ฉัน _เอง @ เรียนรู้ความคิด ช่วงที่ 4

เพลงที่เราประทับใจ
My favorite songs

อาการโรคซึมเศร้ากับการปรับอารมณ์ทางด้านเสียงเพลงกับบทเพลงที่บรรเลงทำนองไพเราะ
บรรเลงตามเสียงเพลงที่เข้าถึงอารมย์ได้ดีเวลาตอนที่ผิดหวังหรืออกหักเคยไหมฟังเพลงเศร้า, เพลงรัก, เมื่อเวลาอกหักแล้วกลับไม่รู้สึกเศร้ากับรู้สึกว่าบทเพลงบททำนองนี้ของดนตรีและการบรรยายของเสียงเพลงบรรเลงเหล่านี้ที่แสนโรแมนติกและแสนไพเราะเหลือเกินช่างมีความหมายเหลือเกิน.
ความผิดหวังที่กำลังจัมาถึงนั้นเราต้องยอมรับความจริงเสมอว่าเราจะไม่กลัวและจะเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นและรู้สักกับตัวเองเสมอว่าเราจะโชคดีที่สามารถรักใครสักคนโดยเฉพาะเราจะมีหัวใจที่งดงามที่รักตัวเองได้ดี control ตัวเองได้อย่างชาญฉลาด.
คงเหมือนสูตรวิทยาศาสตร์ที่มีทั้งขั่วบวกและขั่วลบต้องสมดุลย์กัน
ประสบการณ์ที่ผู้เขียนปรับได้คือรู้สึกอยากขอบคุณนักแต่งเพลงอย่างมากมายที่ได้แต่งเพลงที่ไพเราะและทำให้เรารู้สึกเข้าถึงอารณย์ที่แท้จริงรวมถึงจะเข้าถึงบทประพันธ์เหล่านี้ได้อย่างเหมาะสมกับภาษาวรรณกรรมและภาษาดนตรีได้ดีการผสมผสานบรรเลงอย่างมีอิสระไ้ร้พรมแดนในห่วงอารมย์ของเราได้ยาวนานจำได้ว่าตอนเราเป็นเด็กเราเคยได้ยินบทเพลงหนึ่งที่แสนไพเราะและแล้วเวลาผ่านไปหลายปีจนถึงวันี้ถ้าเรามียินอีกครั้งเรายังจำเพลงนั้นกับเหตุกราณ์นั้นได้ดี และเราอาจจะจดไว้จนใกล้วันสุดท้ายของชีวิต… ไม่ใช่เฉพาะเพลงรักเท่านั้น.. ทุกๆเพลงที่เราฟังแล้วมีความสุข
ในส่วนตัวนักเขียนกว่านักแต่งเพลงจะสามารถแต่งเพลงหนึ่งได้จะต้องใช้จิตนาการและความเข้าใจถึงคำร้องที่สอคคล้องกันจนเป็นภาษาที่ไพเราะ.

เพื่อนชื่อ ริชา
ถามผู้เขียนว่า
“อ้าวถ้าฟังเพลงรักเศร้าและจะไม่ทำให้เศร้ามากไปกว่าเดิมหรือ?

ผู้เขียนตอบว่าการฟังเพลงเศร้าหรือเพลงอกหักนั้นให้พยายามนึกถึงเนื้อเพลงและบททำนองที่นักร้องนักแต่งเพลงอยากจะบอกเราต้องแยกอารมณ์เศร้าให้ออกแล้วเอาอารมย์ปลื้มปิติแทนคือตอบคำถามตัวเองว่าทำไมถึงรู้สึกดีไม่ควรรู้สึกไม่ดีกับตัวเองปรับจากความทุกข์เปลี่ยนเป็นความรักที่เราอยากได้สัมผัสและสัมผัสนี้ช่างมีความสุขที่เราเคยรับรู้มหัศจรรย์ที่เราสามารถเข้าใจตัวเอง รู้จักรักตัวเอง และภูมิใจตัวเองที่สามารถ control ฟังเพลงเศร้าได้ไพเราะถึงแม้เราจะผิดหวังแต่การผิดวังนี้คือสิ่งที่มีค่าที่เราภูมิใจที่ว่า”อกหักดีกว่ารักไม่เป็น”
ในความหมายที่นักเขียนเข้าใจอย่างท่องแท้คือ ความรักความผิดหวังที่เกิดขึ้นกับเราได้แสดงว่าเราเป็นคนเป็นที่สมบูรณ์มีหัวใจที่ละเอียดอ่อนและงดงามเราเป็นคนพิเศษที่สามารถเข้าไปอยู่ในตำแหน่งนี้แล้วปรับอารมย์ให้มีความสุขกับบทเพลงนี้ที่แต่งให้เราเข้าใจถึงบทประพันธ์ท่วงทำนองที่แสนเศร้าเข้าถึงบทประพันธ์นี้ได้อย่างยอดเยี่ยม! ตัวเราต้องยอมตัวเองให้รู้จักคำว่ารักและเจ็บปวด
แสดงว่าเรานี้กล้าหาญที่จะเผชิญความเป็นจริงคือเราเอาชนะใจในด้านลบของตัวเองได้”รักตัวเองเป็นเเละเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดให้แก่ตัวเราเอง

ฉัน _เอง @ เรียนรู้ความคิด ช่วงที่ 5
ความผิดหวัง
Broken Heart

ง่ายๆนั้นคือเปลี่ยนจากความทุกข์เป็นความรักตัวเองในทางที่ถูก,เข้าใจตัวเอง,เข้าใจเหตุการณ์และเข้าใจเค้าคนนั้นนนน…
ในเรื่องราวจริงๆถ้าเราได้คบกันมาระยะหนึ่ง เราน่าจะรู้จักตัวเราและตัวเค้าคนนั้นรวมถึงเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมา
สร้างฝันของเรา? สร้างตัวเราให้มีความสุขก่อนดีไหม? สร้างตัวเรารักตัวเองให้ถูกทิศทางใส่ใจตัวเองให้ถูกเวลาดีก่อนไหม?
เราให้คุณค่าตัวเองแล้วเราอาจจะเห็นคุณค่าของความรักหรือให้อภัยกับทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเราได้ดีแบบมีสติและมีความสุข
ความผิดหวังไม่ใช่คือ สิ่งที่สุดในชีวิตที่เราต้องการใช่ไหม ?
ความสุขคือ สิ่งคือสิ่งที่สุดที่เราต้องการในทุกวันใช่ไหม?
สำหรับผู้เขียนความสุขนั้นเราต้องการตลอดทุกๆนาทีจะว่าไปแล้วผู้เขียนต้องการทุกลมหายใจเข้าออกตามจังหวะหัวใจเต้นเลยด้วยซำ้.
แต่ทำไมความรู้สึกที่ต้องการนี้มีความรู้สึกสุขแบบไปๆ มาๆ จะไป..มากว่าจะมา.. บางครั้งความสุขไปนานมากกว่าจะกลับมาอีก….ผู้เขียนเกือบหมดลมหายใจ.
ความรักความสุขและความทุกข์มักเดินทางเส้นทางเดียวกันเสมอหรือสวนทางกันเสมอแล้วแต่ใจเรากำหนด.
ขอยกตัวอย่าง ตอนคบกันเราเห็นแฟนเราเหมือนเทพบุรุษเมื่อเราได้แต่งงานกับเทพบุรุษคนนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่เราวาดฝันในจินตนานั้นคำตอบของผู้เขียนคือไม่มีใครเป็นอย่างที่เราต้องการไม่มีใครที่จะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างให้เราได้ และไม่มีใครจะรักเรามากกว่าตัวเราเอง.
ไม่มีใครมาจะรู้จักตัวเราหรือเป็นตัวของเราได้ทังหมดใช่ไหม?
ผู้เขียนเองกำลังหาคำตอบที่แท้จริง เจตนาคือปรารถนาที่จะแชร์ความหมายทั้งหมดนี้ด้วยกัน

ได้คุยกับเพื่อนของเพื่อนชื่อ Mr. John Wales
รู้สึกอย่างไรกับภรรยาที่อยู่ด้วยกันมา 46 ปีแล้วต้องการไปอยู่กับผู้ชายอีกคนหนึ่งซึ่งผู้ชายคนใหม่
ชื่อ Chris (ไม่มีบ้าน, ไม่มีรถ, หม่มีเงิน อาศัยอยู่กับเต็นท์แต่ สิ่งที่Chris มีคือความสุขกับตัวเองตลอดเวลา, นิ่งและสงบแบบง่ายๆกับการมองชีวิต.)
John ตอบว่าแรกรู้สึกแย่มากๆรู้สึกไม่ดีเลยลูกก็สงสารพ่อมากและอยากให้พ่อไม่ทุกข์และปราถนาให้พ่อมีความสุขจึงขอร้องให้ทำใจและแล้ว John ก็คิดได้ว่าถ้าเค้าทุกข์ ลูกก็ทุกข์และภรรยาของเค้าก็ทุกข์เช่นกัน John จึงเปลียนวิธีคิดว่าควรรักตัวเองให้มีตัวเองมีความสุขแล้วเค้าก็เห็นรักแท้ที่สามารถอยู่กับความรักแบบนี้ได้.

ฉัน _เอง @ เรียนรู้ความคิด ช่วงที่ 6

การใช้ชีวิตแบบพอดี
Living with balance ” living with peace and harmony every day”

ชีวิตที่ดีที่สุดและรักษาความสุมดุลย์ของตัวเองนั้นพร้อมจะเดินไปอย่างมั่นคงในทุกวันของอุปสรรค
เก็บภาพด้านดีมุมดีที่เกิดขึ้นและเป็นกำลังใจกับหัวใจดวงนี้โดยให้กำลังใจต่อไป.
การรักษาโรคซึมเศร้าคือการรักษาโรคนี้โดยการรักตัวเอง, เข้าใจโรคนี้ด้วยการเข้าใจตัวเอง,ทำในสิ่งที่ตัวเองรักแล้วไม่ทำให้ใครเดือดร้อนรักให้เป็นอยูกับตัวเองให้ได้.
จริงโรคนี้ส่วนใหญ่จะเป็นแบบไม่รู้ตัวอารมณ์เหมือนมาตามสายลม,ซึมเข้าไปในตัวเราและสะกดอารมณ์พยายาม ต้องพยายามควบครุมอารมณ์ด้านลบไม่หวาดกลัวและไม่หวาดระแวง

สอน
Teaching yourself
ถามตัวเองว่าทำไมถึงไม่ชอบให้ใครสอนเรา
เราเองก็ไม่ชอบสอนใครเพราะความเป็นจริงไม่มีใครสอนเราเข้าใจตัวเรามากกว่าตัวเองในด้านอารมย์
ครูที่จะสอนเราได้ดีและเราจะจำคือตัวเราเอง
เราต้องเป็นครูแก่ตัวเองเราต้องเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ตัวเอง
ความเป็นจริงเราอยากให้คนที่ดีจริงๆคิดดีจริงๆสอนเราเสมอ
เคยได้ยินไหมที่เศรษฐีอยากเป็นขอทานนักเขียนเชื่อว่าเศรษฐีอยากเข้าใจความรู้สึกจริงๆตัวตนจริงๆของขอทานความเป็นจริงของการเป็นขอทานที่แท้จริงก็เป็นครูที่ดีของเราคือขอทานยอมรับความจริงว่าการขอคือการอยากให้คนแชร์ความเมตตาสงสารอยากใด้ความกรุณาแล้วเรามีโอกาสที่จะแชร์แล้วเราอยากมีตรงนี้ในทุกๆวันไหม
แนะนำ
ควรรับคำแนะนำที่ดีเพื่อปรับปรุง
ควรทำความเข้าใจตัวเองเพื่อรับสิ่งใหม่ที่ดีเข้ามา
คำแนะนำที่ดีคือคุณค่าอันประเสริฐที่เป็นความสุขที่แท้จริงที่ไดรับ

ความสุข
Happy
ต้องเชื่อมั่นเสมอเว่าทุกชีวิตทุกอารมย์ของเราแต่วัยและเวลาที่ผ่านมาจะต้องมีช่วงเวลาที่ดีหรือช่วงอารมณ์ที่ดีสุดในตัวเรา

ความเจ็บปวด
Pain
ผู้เเขียนปรียนเทียบว่าถ้าเราจะรักอะไรหรือเข้าถึงบางสิ่งที่ซับสนในตัวเราลองมองตัวเองและเข้าใจในสิ่งที่พิเศษของตัวเราแล้วเราจะรู้ว่าเรามีสิ่งที่ดีสุดในตัวเองคือหัวใจที่แข็งแกร่งที่จะฝ่าฝันความทุกข์ในด้านจิตใจเราต้องการเฝ้ามองและคอยเตือนตัวเองตลอดเวลา
บางครั้งทำไมถึงชอบโทษตัวเองว่าตัวเองผิด
เรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้วไม่สำคัญว่าใครผิดแล้วตอนนี้สำคัญที่ว่าทำอย่างไรที่จะไม่ผิดซำ้สองนี้คือสิ่งที่ต้องระวัง
Guilty
ความผิดเกิดขึ้นแล้วทำอย่างไรถึงจะอยู่กับสิ่งนี้ด้วยกันได้
ความผิดยิ่งใหญ่เกิดขึ้นแล้วเราจะอดทนได้ไหมและจะควบคุมดูแลจิตใจเราได้อย่างไร
เชื่อว่าถ้าเราย้อนเวลาได้เราจะไม่ให้มันเกิดขึ้น
เราต้องอยู่กับความผิดนี้ไปคู่กับตัวเราและเป็นเงาตามตัวเราตลอด
ทำอย่าวไรใจเราจะถึงจะนิ่งและความผิดนี้จะไม่ทำลายเรามากขึ้นจนเราแทบตาย
ความตายคือสิ้นสุดกับความผิดนี้ใช่ไหม
ความมีสติเป็นสัจธรรมการดำรงชีวิตต่อไป

ฉัน _เอง @ เรียนรู้ความคิด ช่วงที่ 7

รางวัลแก่ชีวิต
Prize

มีพื่อนที่ดีคนหนึ่งบอกเราว่าถ้าผู้เขียนสามารถเขียนหนังสือได้ดีอาจได้เข้าแข่งขันรางวัลซีไรต์เรารู้สึกยินดีกับคำพูดแต่ความเป็นจริงได้แค่รางวัลแด่คนช่างฝันแล้วฝันนี้ไปให้ถึงก็พอ
ให้รางวัลแก่ตัวเอง
รางวัลของความสุขนั้นมากมายกว่ารางวัลใดๆที่ยิ่งใหญ่ที่อยากได้แบบมุ่งหมั่น
รางวัลที่ได้เห็นแม่มีความสุขจากรอยยิ้มที่แม่มีความสุขจริงๆ
รางวัลที่ได้เห็นพ่อที่แสนดีได้เห็นเรามีความสุขจริงๆ
รางวัลที่อยากแชร์ให้คนอื่นจริงๆด้วยความปราถนาการให้จริงๆ
รางวัลที่ให้กับคุณธรรมความความดีที่ไม่ปะปนกับความไม่ดีต่อสังคม
รางวัลที่สามารถปรับสภาพความสูญเสียที่ไม่ทำให้ตัวเองเดินหลงทาง
รางวัลแก่ความดีที่ไม่เสแสร้งและปารถนาที่จะมีความสุขจริงๆ
รางวัลที่จะเข้าใความเจ็บปวดของตัวเองกับรางวัลทีทจะเข้าใจความเจ็บปวดของผู้อื่น
รางวัลที่จะไม่โกรธกับความผิดหวังและรางวัลที่ไม่ทุกข์กับความจนแค่เพียงชั่วคราว
รางวัลที่ให้ตัวเองโดยคิดดีกับคนอื่นรางวัลที่จะให้อภัยเมื่อรู้ความจริงว่าเราคิดร้ายในบางครั้งนั้นไม่ถูก
รางวัลเมื่อเรารักตัวเองให้เป็นเป็นคนดีมีแต่ความสุข
ฝัน
ฝันให้ไกลไปให้ถึง
ฝันอย่างมั่นคงไปอย่างแน่วแน่
ฝันถึงอดีตที่แสนเศร้าที่ติดตามอย่างมีความสุขไม่ทุกข์อีกต่อไป
ฝันถึงอนาคตที่ไม่ไกลเกือบเอื้อม
ฝันอยากเป็นคนดีที่ดีจริงๆไม่ใช่เสร้งแสร้งตามสถานการณ์พาไป
ฝันให้คนดีเป็นมิตรแก่เราและคนไม่ดีไม่ให้เรารู้สึกเป็นศัตรู
ฝันอยากให้แม่มีความสุข
ฝันถึงพ่อที่แสนดีที่ไม่มีวันลืมความดีของท่าน
ฝันอยากเป็นผู้ชนะในด้านจิตใจและคุณธรรมมากกว่ามีเงินมากแล้วไม่รู้คุณค่าของหัวใจที่ดีของตัวเอง
ฝันถึงเพื่อนที่ดี, ฝันถึงคนดีทั่วไป,ตามหมู่บ้าน,ตามตำบลและฝันถึงคนดีที่แสนดีจริงๆทั่วบระเทศ
ฝันยากให้เพื่อน, ฝันถึงเพื่อนรวมทาง, ฝันถึงเพื่อนที่เคยมีฝันและฝันถึงความดีที่มีต่อกัน
ฝันอยากให้เพื่อนมีความสุขสุขที่ได้ฝันถึงเพื่อนที่ดีและไม่มีแรงอิจฉาต่อกัน

Gเรามีความสุขในทุกนาทีนั้นคือฝันที่เป็นจริงและความช่างวัลแด่คนช่างฝัน

My Latest Posts

• • •

Familyandfriends@gmail.co.uk


Dear my beautiful family&friends
เรื่องความฝันของจิมมีตอนที่ท่องเที่ยวใน museum ต่างๆกับการจิตนาการที่ยิ่งใหญ่

I am writing to you วันนี้เกี่ยวกับการค้นคว้าเรื่องราวความคิดของเด็กๆที่ต้องการเป็นนักวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะ (Special my son junior Jimmy ) จิมมี่นั้นมีอุปนิสัยที่ชอบเพ้อฝันและจินตนาการไปตามสไตล์เด็กอายุ 9 ขวบ ชอบพูดคนเดียวเป็นกิจวัตรประจำวันสำหรับแม่นั้นดีใจมากที่ลูกมีจินตนาการและมีความฝัน ฝันนี้วันนี้ถึงจะไกลถึงจักรวาลแม่ก็จะสนับสนุนลูกจิมมี่เสมอ แม่อธิบายให้จิมมี่ฟังว่า คนเราควรจะมีมุมมองในด้านดีทุกอย่างก็มีข้อดีและข้อเสีย ลองมองด้านดีว่าทำไมถึงต้องมีประวัติศาสตร์ถึงได้มีการเรียนรู้เรื่องราวในอดีตในแต่ละเรื่องราว บางเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่ไม่น่าเกิดขึ้นอาทิเข่นการทำสงครามหรือสงครามโลกครั้งที่1-2 ที่ผ่านมาบางครั้งเราต้องหาสมมุตฐานเรื่องราวในอดีตย้อนยุคเพื่อค้นหาหลักฐานในอดีตที่ยิ่งใหญ่ที่มนุษย์สร้างไว้มาก่อนแล้วรวมทั้งโลกดึกดำบรรพ์ของสัตว์โลกที่สูญพันธุ์ไปแล้วอย่างเช่น ไดโนเสาร์และเวลาต่อมาทำให้มนุษย์ถึงได้ค้นหาและค้นคว้าสิ่งใหม่ในอนาคตรวมกับจินตนาการที่ไม่มีที่สิ้นสุด….. และประกอบกันกับสิ่งที่จะต้องเรียนรู้ในโลกใบนี้ที่ช่างมหัศจรรย์และใช้เวลาเดินทางไปแบบไม่มีวันหยุด.
Now, แม่เพิ่งรู้ว่าการเรียนรู้ชีวิตเล็กๆนี้ที่เพิ่งค้นพบจากระบบความคิดของตัวเราเป็นเรื่องง่ายๆที่มนุษย์ก็ทำได้นั่งลงนิ่งนิ่งๆจิมกาแฟหรือชาแล้วทอดสายมองออกไปไกลๆๆๆ “แม่อยู่บนรถไฟเดินทางเข้าเมือง London แล้วมองออกไปนอกหน้าต่างมองเห็นผู้คนแจจัดมากมายเห็นแบบนี้แหละชีวิตของคนในเมืองใหญ่ มองแล้วเห็นความพัฒนาทางเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วแข่งขันกันตลอดเวลาต่อวันที่มีแค่ 24 ชั่วโมง แต่ชีวิตของเรายังมีอีกหลายชั่วโมงถ้ายังมีลมหายใจได้อีกหลายนาทีหลายวันและอีกหลายปี ทำไมเราต้องเร่งรีบกับใจตัวเองบางครั้งลองหันมามองตัวเองทำความรู้สึกกับหัวใจของเราที่ต้องการเวลาให้กับตัวเองเพื่อความสุขเล็กๆกับอารมณ์ที่ดีได้กลับมากมาย นี้เป็นส่วนหนึ่งของความคิดที่แม่มองว่าแม่จะสนันสนุนจิมมี่และให้เวลาและทุ่มเทจนถึงที่สุด…..หนึ่งชีวิตเล็กๆนี้บางครั้งก็นิ่งบางครั้งก็สับสนตามแต่ห้วงของอารมณ์ก็เกิดจากการควบคุมอารมณ์ตัวเองได้แค่ไหนมีความสุขกับสิ่งเล็กๆรอบตัวเรามีความสุขกับเรื่องราวของคนอื่นและพอใจในเรื่องราวของตัวเองบ้าง…ความสุขก็ใกล้ตัวเราไม่ต้องหาเงินมากมายเพื่อที่จะแลกมา พูดไปแล้วก็ใกล้ตัวเองคือใจของเราเองที่ไม่มีใครจะขอซื้อความสุขในใจเราได้และไม่มีใครที่จะขายความสุขของตัวเค้าเองได้ สิ่งที่เราทำได้คือความสุขอยู่ที่ใจ,กายก็นิ่งสุขุม, แชร์ความรู้สึกดีดีนี้ให้คนรอบๆเราแล้วคนรอบๆเราก็จะแชร์ให้คนอื่น คงจะเหมือนลูกโซที่มาคล้องกันอย่างต่อเนือง…… สมมุติว่าคุณกำลังท่องเที่ยวอยู่ในชนบทในประเทศอังกฤษทางภาคเหนือจาก Scotland นั่งอยู่บนรถไฟแล้วมองออกตามวิวทิวทัศน์นอกกระจกใสในขบวนรถไฟเลื่อนไปอย่างรวดเร็วถามหาสัจธรรมของชีวิตของคนรอบข้างที่เราเห็นสิ่งง่ายๆที่เราจะเรียนรู้กับตัวเองคือ เสียงของรถไฟเคลื่อนไหวแล้วเสียงของผู้คนรอบข้างที่พูดภาษาต่างๆ เราไม่เข้าว่าคนรอบข้างพูดอะไรแต่สิ่งที่ได้คือความนิ่งและความสงบกับความว่างเปล่าพร้อมที่จะเปิดรับสิ่งใหม่ๆใหม่ๆเข้ามาในจิตใจเราตัวอย่างเช่นถ้าเราไม่เข้าใจภาษาของเค้าแต่เราเข้าใจภาษาทางกายแล้วเราเห็นสายตาที่ยิ้มแบบมีความสุขของคนรอบข้างที่รวมเดินทางขบานรถไฟเส้นทางเดียวกัน” จิมมี่ตะโกนเสียงดังลั่นบนรถไฟใต้ดิน “แม่ แม่ แม่ฝันเฟ้อมากไปอีกแล้ว” จิมมี่จับตัวแม่เขย่าอย่างแรง “แม่ตื่นได้แล้วใกล้ถึง South Kensington tube station” ( แม่สะดุ้ง แหม!!!! แม่ก็มีสิทธ์ที่เพ้อฝันเหมือนกันจิมมี่ แต่คนละเรื่อง คนละหัวข้อนิค่ะ) … กลับมาที่ความจริงวันนึ้ของจิมมี่และแม่ พวกเรากำลังจะไปเดินเที่ยว museum ที่ Science Museum ( Exhibition Road, South Kensington, London ) ลูกดูตื่นเต้นมาก โลกของเด็กกับผู้เป็นแม่อย่างเรานี้ เด็กๆ เหล่านี้ช่างโชดดีจริงๆ ที่ยุคนี้เด็กๆได้มีโอกาสได้สัมผัส เรื่องราวต่างๆซึ่งดูเหมือนจะอยู่ใกล้แค่เอื้อมมือ แม่ย้อนกลับไปตอนแม่เป็นเด็กเล็ก ไม่เคยมีโอกาสแบบนี้เลย อาทิเช่น พวกเด็กเหล่านี้ได้มีโอกาสได้เห็นหุ่นจำลองและเครื่องบินร่อนและเครื่องบินรบของจริงและเรื่องราวตัวอย่างจริงๆ รูปภาพหรือรูปประกอบ,เสียงประกอบ ( sound track ) รวมทั้งภาพเขียนประกอบเรื่องราว ตอนแม่เป็นเด็ก อยากมีโอกาสแบบนี้บ้างจังเลย ช่างน่าเสียดายที่เกิดผิดปีพ.ศ. และผิดยุค เกืดผิดศวรรคไปหน่อยเองแต่อย่างไรก็ตาม ก็ทำให้แม่ได้เห็นคุณค่าของ museum ที่องค์กรของรัฐและนักวิชาการต่างๆได้ใช้เวลาทุ่มเทให้ข้อมูลจัดระบบต่างๆรวมทั้งเทคโนโลยีใหม่ๆที่มีประโยชน์และให้โอกาสแก่เด็กๆๆๆรวมทั้งแม่ก็ได้รับความรู้เพิ่มขึ้นรวมทั้งจิมมี่ก็ได้รับแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ตามมา ในช่วงเวลาที่พวกเรามีเวลาว่างแม่ชอบให้จิมมี่ดูหนังเรื่อง สตาร์ ทเรค (Star Trex) บางครั้งอยู่กับโลกปัจจุบันกับการสร้างจิตนการถึงโลกอนาคตก็ท้าท้ายมาก สตาร์ ทเรค (Star Trex) เป็นหนังของโลกอนาคตแนววิทยศาสตร์ที่สามารถทำให้พวกเราได้จิตนการว่าถ้าวันหนึ่งเราต้องเดินทางสู่โลกอนาคตในระบบจักรวาลนี้ ใช้ชีวิตในโลกอวกาศนั้นจะเป็นเช่นไร อาทิเช่นบทเรียนของการเริ่มต้นแห่งการเดินทางท่องจักรวาลกับการที่ได้เห็นแลัวใช้เวลาร่วมกันกับมนุษย์ต่างดาวที่มีหน้าต่างคล้ายพวกเราใช้ภาษาใหม่เรียนรู้เรื่องราวแปลกใหม่ มีทั้งเป็นมิตรและศัตรูรวมถึงการไม่เข้าใจของแต่ละฝ่ายรวมทั้งการขัดแย้งและการทำสงครามจนไปถึงการแก้ปัญหาและการปรับตัวเข้าหากันในวัฒนธรรมที่แตกต่างสิ่งเหล่านี้ก็เกิดขึ้นกับพวกเราในโลกปัจจุบันนี้แต่สุดท้ายพวกเราก็ต้องหาทางและหาสิ่งที่ดีและความสงบสุขปราศจากความขัดแย้งและสามารถดำเนินชีวิตไปด้วยกันอย่างน่าประหลาดเป็นหนังแนวความคิด… ทำให้เกิดโลกใหม่ในจินตนาการของคนที่สนใจได้ดีรวมถึงทำให้เด็กได้รับข้อมูลแปลกใหม่ได้ดี ถึงแม้ว่ายังเป็นแค่หนังแนวจินตนาการแต่เราก็มีโอกาสได้ใช้ช่วงเวลาด้วยกันในครอบครัวและมีกิจกรรมทำให้ได้เรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับดวงดาวและการใช้ทักษะต่างๆทางด้านวิทยาสตร์ในบางครั้งได้เรื่องราวใหม่รวมทั้งข้อคิดและอุดมคติที่ดีได้รวมทั้งเรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ของมนุษย์ไปด้วยกันไปกันได้ดีกับการล่องลอยไปกับจินตนาการในโลกใหม่หรือจินตนาการแบบแนวอวกาศและยานอวกาศในระบบสุริยะจักรวาลกับสรัางยานอวกาศที่เดินทางได้ไกลกว่าความเร็วของแสงที่ท้าท้ายไปด้วยกัน.

• • •

บลอกที่ WordPress.com .

ขึ้น ↑