
Introduce yourself and your blog
My Latest Posts
• • •Familyandfriends@gmail.co.uk
Dear my beautiful family&friends
เรื่องความฝันของจิมมีตอนที่ท่องเที่ยวใน museum ต่างๆกับการจิตนาการที่ยิ่งใหญ่
I am writing to you วันนี้เกี่ยวกับการค้นคว้าเรื่องราวความคิดของเด็กๆที่ต้องการเป็นนักวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะ (Special my son junior Jimmy ) จิมมี่นั้นมีอุปนิสัยที่ชอบเพ้อฝันและจินตนาการไปตามสไตล์เด็กอายุ 9 ขวบ ชอบพูดคนเดียวเป็นกิจวัตรประจำวันสำหรับแม่นั้นดีใจมากที่ลูกมีจินตนาการและมีความฝัน ฝันนี้วันนี้ถึงจะไกลถึงจักรวาลแม่ก็จะสนับสนุนลูกจิมมี่เสมอ แม่อธิบายให้จิมมี่ฟังว่า คนเราควรจะมีมุมมองในด้านดีทุกอย่างก็มีข้อดีและข้อเสีย ลองมองด้านดีว่าทำไมถึงต้องมีประวัติศาสตร์ถึงได้มีการเรียนรู้เรื่องราวในอดีตในแต่ละเรื่องราว บางเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่ไม่น่าเกิดขึ้นอาทิเข่นการทำสงครามหรือสงครามโลกครั้งที่1-2 ที่ผ่านมาบางครั้งเราต้องหาสมมุตฐานเรื่องราวในอดีตย้อนยุคเพื่อค้นหาหลักฐานในอดีตที่ยิ่งใหญ่ที่มนุษย์สร้างไว้มาก่อนแล้วรวมทั้งโลกดึกดำบรรพ์ของสัตว์โลกที่สูญพันธุ์ไปแล้วอย่างเช่น ไดโนเสาร์และเวลาต่อมาทำให้มนุษย์ถึงได้ค้นหาและค้นคว้าสิ่งใหม่ในอนาคตรวมกับจินตนาการที่ไม่มีที่สิ้นสุด….. และประกอบกันกับสิ่งที่จะต้องเรียนรู้ในโลกใบนี้ที่ช่างมหัศจรรย์และใช้เวลาเดินทางไปแบบไม่มีวันหยุด.
Now, แม่เพิ่งรู้ว่าการเรียนรู้ชีวิตเล็กๆนี้ที่เพิ่งค้นพบจากระบบความคิดของตัวเราเป็นเรื่องง่ายๆที่มนุษย์ก็ทำได้นั่งลงนิ่งนิ่งๆจิมกาแฟหรือชาแล้วทอดสายมองออกไปไกลๆๆๆ “แม่อยู่บนรถไฟเดินทางเข้าเมือง London แล้วมองออกไปนอกหน้าต่างมองเห็นผู้คนแจจัดมากมายเห็นแบบนี้แหละชีวิตของคนในเมืองใหญ่ มองแล้วเห็นความพัฒนาทางเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วแข่งขันกันตลอดเวลาต่อวันที่มีแค่ 24 ชั่วโมง แต่ชีวิตของเรายังมีอีกหลายชั่วโมงถ้ายังมีลมหายใจได้อีกหลายนาทีหลายวันและอีกหลายปี ทำไมเราต้องเร่งรีบกับใจตัวเองบางครั้งลองหันมามองตัวเองทำความรู้สึกกับหัวใจของเราที่ต้องการเวลาให้กับตัวเองเพื่อความสุขเล็กๆกับอารมณ์ที่ดีได้กลับมากมาย นี้เป็นส่วนหนึ่งของความคิดที่แม่มองว่าแม่จะสนันสนุนจิมมี่และให้เวลาและทุ่มเทจนถึงที่สุด…..หนึ่งชีวิตเล็กๆนี้บางครั้งก็นิ่งบางครั้งก็สับสนตามแต่ห้วงของอารมณ์ก็เกิดจากการควบคุมอารมณ์ตัวเองได้แค่ไหนมีความสุขกับสิ่งเล็กๆรอบตัวเรามีความสุขกับเรื่องราวของคนอื่นและพอใจในเรื่องราวของตัวเองบ้าง…ความสุขก็ใกล้ตัวเราไม่ต้องหาเงินมากมายเพื่อที่จะแลกมา พูดไปแล้วก็ใกล้ตัวเองคือใจของเราเองที่ไม่มีใครจะขอซื้อความสุขในใจเราได้และไม่มีใครที่จะขายความสุขของตัวเค้าเองได้ สิ่งที่เราทำได้คือความสุขอยู่ที่ใจ,กายก็นิ่งสุขุม, แชร์ความรู้สึกดีดีนี้ให้คนรอบๆเราแล้วคนรอบๆเราก็จะแชร์ให้คนอื่น คงจะเหมือนลูกโซที่มาคล้องกันอย่างต่อเนือง…… สมมุติว่าคุณกำลังท่องเที่ยวอยู่ในชนบทในประเทศอังกฤษทางภาคเหนือจาก Scotland นั่งอยู่บนรถไฟแล้วมองออกตามวิวทิวทัศน์นอกกระจกใสในขบวนรถไฟเลื่อนไปอย่างรวดเร็วถามหาสัจธรรมของชีวิตของคนรอบข้างที่เราเห็นสิ่งง่ายๆที่เราจะเรียนรู้กับตัวเองคือ เสียงของรถไฟเคลื่อนไหวแล้วเสียงของผู้คนรอบข้างที่พูดภาษาต่างๆ เราไม่เข้าว่าคนรอบข้างพูดอะไรแต่สิ่งที่ได้คือความนิ่งและความสงบกับความว่างเปล่าพร้อมที่จะเปิดรับสิ่งใหม่ๆใหม่ๆเข้ามาในจิตใจเราตัวอย่างเช่นถ้าเราไม่เข้าใจภาษาของเค้าแต่เราเข้าใจภาษาทางกายแล้วเราเห็นสายตาที่ยิ้มแบบมีความสุขของคนรอบข้างที่รวมเดินทางขบานรถไฟเส้นทางเดียวกัน” จิมมี่ตะโกนเสียงดังลั่นบนรถไฟใต้ดิน “แม่ แม่ แม่ฝันเฟ้อมากไปอีกแล้ว” จิมมี่จับตัวแม่เขย่าอย่างแรง “แม่ตื่นได้แล้วใกล้ถึง South Kensington tube station” ( แม่สะดุ้ง แหม!!!! แม่ก็มีสิทธ์ที่เพ้อฝันเหมือนกันจิมมี่ แต่คนละเรื่อง คนละหัวข้อนิค่ะ) … กลับมาที่ความจริงวันนึ้ของจิมมี่และแม่ พวกเรากำลังจะไปเดินเที่ยว museum ที่ Science Museum ( Exhibition Road, South Kensington, London ) ลูกดูตื่นเต้นมาก โลกของเด็กกับผู้เป็นแม่อย่างเรานี้ เด็กๆ เหล่านี้ช่างโชดดีจริงๆ ที่ยุคนี้เด็กๆได้มีโอกาสได้สัมผัส เรื่องราวต่างๆซึ่งดูเหมือนจะอยู่ใกล้แค่เอื้อมมือ แม่ย้อนกลับไปตอนแม่เป็นเด็กเล็ก ไม่เคยมีโอกาสแบบนี้เลย อาทิเช่น พวกเด็กเหล่านี้ได้มีโอกาสได้เห็นหุ่นจำลองและเครื่องบินร่อนและเครื่องบินรบของจริงและเรื่องราวตัวอย่างจริงๆ รูปภาพหรือรูปประกอบ,เสียงประกอบ ( sound track ) รวมทั้งภาพเขียนประกอบเรื่องราว ตอนแม่เป็นเด็ก อยากมีโอกาสแบบนี้บ้างจังเลย ช่างน่าเสียดายที่เกิดผิดปีพ.ศ. และผิดยุค เกืดผิดศวรรคไปหน่อยเองแต่อย่างไรก็ตาม ก็ทำให้แม่ได้เห็นคุณค่าของ museum ที่องค์กรของรัฐและนักวิชาการต่างๆได้ใช้เวลาทุ่มเทให้ข้อมูลจัดระบบต่างๆรวมทั้งเทคโนโลยีใหม่ๆที่มีประโยชน์และให้โอกาสแก่เด็กๆๆๆรวมทั้งแม่ก็ได้รับความรู้เพิ่มขึ้นรวมทั้งจิมมี่ก็ได้รับแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ตามมา ในช่วงเวลาที่พวกเรามีเวลาว่างแม่ชอบให้จิมมี่ดูหนังเรื่อง สตาร์ ทเรค (Star Trex) บางครั้งอยู่กับโลกปัจจุบันกับการสร้างจิตนการถึงโลกอนาคตก็ท้าท้ายมาก สตาร์ ทเรค (Star Trex) เป็นหนังของโลกอนาคตแนววิทยศาสตร์ที่สามารถทำให้พวกเราได้จิตนการว่าถ้าวันหนึ่งเราต้องเดินทางสู่โลกอนาคตในระบบจักรวาลนี้ ใช้ชีวิตในโลกอวกาศนั้นจะเป็นเช่นไร อาทิเช่นบทเรียนของการเริ่มต้นแห่งการเดินทางท่องจักรวาลกับการที่ได้เห็นแลัวใช้เวลาร่วมกันกับมนุษย์ต่างดาวที่มีหน้าต่างคล้ายพวกเราใช้ภาษาใหม่เรียนรู้เรื่องราวแปลกใหม่ มีทั้งเป็นมิตรและศัตรูรวมถึงการไม่เข้าใจของแต่ละฝ่ายรวมทั้งการขัดแย้งและการทำสงครามจนไปถึงการแก้ปัญหาและการปรับตัวเข้าหากันในวัฒนธรรมที่แตกต่างสิ่งเหล่านี้ก็เกิดขึ้นกับพวกเราในโลกปัจจุบันนี้แต่สุดท้ายพวกเราก็ต้องหาทางและหาสิ่งที่ดีและความสงบสุขปราศจากความขัดแย้งและสามารถดำเนินชีวิตไปด้วยกันอย่างน่าประหลาดเป็นหนังแนวความคิด… ทำให้เกิดโลกใหม่ในจินตนาการของคนที่สนใจได้ดีรวมถึงทำให้เด็กได้รับข้อมูลแปลกใหม่ได้ดี ถึงแม้ว่ายังเป็นแค่หนังแนวจินตนาการแต่เราก็มีโอกาสได้ใช้ช่วงเวลาด้วยกันในครอบครัวและมีกิจกรรมทำให้ได้เรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับดวงดาวและการใช้ทักษะต่างๆทางด้านวิทยาสตร์ในบางครั้งได้เรื่องราวใหม่รวมทั้งข้อคิดและอุดมคติที่ดีได้รวมทั้งเรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ของมนุษย์ไปด้วยกันไปกันได้ดีกับการล่องลอยไปกับจินตนาการในโลกใหม่หรือจินตนาการแบบแนวอวกาศและยานอวกาศในระบบสุริยะจักรวาลกับสรัางยานอวกาศที่เดินทางได้ไกลกว่าความเร็วของแสงที่ท้าท้ายไปด้วยกัน.
Summer in July เช้าวันหนึ่งของปีที่แล้วแม่พาจิมมี่ไปเที่ยว National Air and Space Museum in Wash ton DC, USA จิมมี่ได้มีโอกาสดูหุ่นจำลอง First Spacewalk, On March 18, 1985, Alexsei Leonov กลายเป็น the first person to venture outside an orbiting spacecraft! แม่สนใจเรื่องราวนี้แต่จิมมี่กลับสนใจเรื่องราวของเครื่องบินมากกว่า จิมมี่มองดูเครื่องบิน Ryan NYP Sprit of St. Louis แบบใจจดใจจ่อ…..จิมมี่ได้สมมุติตัวเองให้เหมือน Mr. Charles Lindbergh, the aviator He landed his Spirit of St. Louis from USA across the Atlantic to the beautiful land near Paris, completing the first solo airplane flight across the Atlantic Ocean.On May 21, 1927 จิมมี่จิตนาการได้ดีมากช่างเป็นช่วงเวลาสั้นอันสำคัญของเด็กในการอยากเป็นนักบินผู้ยิ่งใหญ่แบบฝันๆของเด็กคนนี้ที่มีความภาคภูมิใจในตัวเองกับความฝันอันกล้าหาญ…..เป็นการสร้างความมั่นใจแบบเด็กๆและความหวังในความคิดจินตนาการอันแสนสั้นแบบฝันๆในโลกใบนี้ของลูกเรานี้เอง!!!
กลับมาจาก Space Museum วันนั้นพวกเราก็กลับมาที่โรงแรมแถว China town Station, Washington DC จิมมี่เปลี่ยนชุดแต่งกายชุดนักบินอวกาศที่ซื้อมาจาก shop ที่ Space Museum แล้วจิมมี่ก็จิตนาการสมมุติว่าตัวเองเป็นนักบินอวกาศที่บินจากสถามบิน Agence spatial européenne, ASE, Guiana Space Centre,France ไปสู่ดาวอังคารนั้นหมายถึงการเดินทางที่ไปสู่โลกอนาคตที่หลายคนจับตามองว่าในยุคของโลกอนานคตจะเป็นอย่างไร…จิมมี่เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับ เรื่องจริงของยานอวกาศ SpaceX ในอินเตอร์เนต.
แม่ชอบเรื่องราวในประวัติศาสตร์มากเมื่อลองย้อนกลับไปในอดีตที่ กาลิเลโอ กาลิเลอี (อังกฤษ: Galileo Galilei ) กาลิเลโอ เกิด15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1564 – 8 มกราคม ค.ศ. 1642 เป็นชาวอิตาลี ซึ่งมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการปฏิวัติวิทยาศาสตร์ ผลงานของกาลิเลโอมีมากมาย งานที่โดดเด่นเช่นการพัฒนาเทคนิคของกล้องโทรทรรศน์และผลงานสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ที่สำคัญจากกล้องโทรทรรศน์ที่พัฒนามากขึ้น ผลงานของกาลิเลโอได้รับขนานนามว่าเป็น “บิดาแห่งดาราศาสตร์สมัยใหม่ “บิดาแห่งฟิสิกส์สมัยใหม่” ส่วนนักวิทยศาสตร์อีกท่านและได้นามว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ อัลแบร์ท ไอน์ชไตน์ (อังกฤษ: Albert Einstein) เป็นศาสตราจารย์ทางฟิสิกส์และนักฟิสิกส์ทฤษฎี ชาวเยอรมันเชื้อสายยิว ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าเขาเป็นผู้เสนอทฤษฎีสัมพัทธภาพ และมีส่วนร่วมในการพัฒนากลศาสตร์ควอนตัม กลศาสตร์สถิติ และจักรวาลวิทยา เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ใน พ.ศ. 2464 หลังจากที่ไอน์สไตน์ค้นพบทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป ในปี พ.ศ. 2458 ไอน์สไตน์ ได้กลายมาเป็นแบบอย่างของความฉลาดหรืออัจฉริยะ Einstein ไอสไตล์เคยคิดสูตร E=mc2
E (Energy) = พลังงาน, m (mass) = มวลสารของวัตถุ, c = ความเร็วแสง ทฤษฎีสัมพัทธภาพต่อมาได้นำไปสู่การค้นคว้าเรื่อง พลังงานปรมาณูเพราะทฤษฎีนี้อธิบายว่ามวลเพียงเล็กน้อยของแร่ชนิดหนึ่ง สามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานมหาศาลที่ใช้ในโรงงานไฟฟ้าขนาดใหญ่ได้อย่างสบาย ในระยะแรกที่ไอน์สไตน์เผยแพร่ผลงานชิ้นนี้ออกไป ผู้คนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจนัก แต่เมื่อไอน์สไตน์อธิบายให้ฟังด้วยวิธีง่าย ๆ ก็เกิดความเข้าใจมากขึ้น และจากผลงานชิ้นนี้ทำให้เขา ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตขั้นเกียรตินิยมสูงสุด (อ้างอิง http://www.rmutphysics.com)
แต่นักวิทยาศาสตร์บางท่านกลับพัฒนาสูตรนี้แล้วบางส่วนของโลกก็ได้ถูกทำลายโดยระเบิดที่กำลังมหาศาลที่เกิดการสูญเสียอย่างมหาศาลที่มนุษย์โลกไม่ควรเกิดขึ้นเลยคือสงคราม แม่ได้แต่ตัดท้อกับความไม่สันติและไม่ยุติธรรมเลยแต่โลกจินตนาการของจิมมี่กลับเริ่มคิดเรื่องอื่นๆและเริ่มสงสัยประวัติของเครื่องบินต่อ…จิมมี่มีคำถามมากมายซึ่งแม่ก็ได้ให้จิมมี่เริ่มศึกษาจากหนังสือที่ห้องสมุดและหาข้อมูลเพิ่มเติมที่อินเตอร์เนตเกี่ยวกับเรื่องเครื่องบิน แต่แม่กับสนใจนักวิทยาศาสตร์ที่จะคิดค้นสูตรใหม่เพื่อจะพัฒนาสิ่งที่ดีต่อไปให้กับชีวิตใหม่ที่หลายคนจับตามองและให้ความสนใจเป็นอย่างมากรวมถึง ศาสตราจารย์ สตีเวน ฮอว์คิง (อังกฤษ: Professor Stephen Harking king) เป็นผู้ค้นพบปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “การแผ่รังสีฮอว์คิง” (Hawking Radiation) ซึ่งหมายถึงการที่หลุมดำเกิดการรั่วไหลของพลังงานจนค่อย ๆ ระเหยหมดไปได้ในที่สุด โดยการค้นพบนี้และข้อเสนอทางจักรวาลวิทยาของเขาที่รวมเอาทฤษฎีสัมพัทธภาพและหลักกลศาสตร์ควอนตัมเข้าด้วยกัน ทำให้เขาเริ่มมีชื่อเสียง โดยผู้คนต่างทึ่งกับวิสัยทัศน์ของศ.ฮอว์คิงในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ โดยไม่ต้องคำนวณหรือทดลองแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม หลายคนมองว่า “ทฤษฎีแห่งสรรพสิ่ง” (Theory of everything ) แม่ได้บอกจิมมี่นั้แม่ก็สนใจในเรื่องของความเป็นจริงของนักคิดหรือนักวิทยศาสตร์ จากอิเตอร์เนตเข่นกันแต่จิมมี่ยังมีความสนใจเรื่องเครื่องบินอยู่จึงรีบเปิดเครื่อง laptop ( computer แบบพกพา) เพื่อค้นหาข้อมูลประวัติการสร้างเครื่องบิน ซึ่งเป็นการสร้างเครื่องบินในยุคประมาณปี 1903 “The wright brother” ,Orville and Wilbur สองพี่น้องผู้ที่เป็นตำนานสร้างเครื่องบิน เครื่องร่อนในยุคแรกๆ การสร้างเครื่องบินที่ประดิษย์ และมีเครื่องยนตร์ ขนาด12-16 แรงม้า….. แล้วจิมมี่ตั้งคำถามว่า “ทำไมช่วงการเริ่มสร้างเครื่องบินช่วงแรก ถึงมีความสำคัญมากขนาดนี้ครับ” แม่ตอบกลับว่า “ตอนนั้นโลกของเราการพัฒนาเรื่องการบินนั้นยังไม่มีใครคิดค้นเครื่องบินที่สามารถบินได้ไกลและมีประสิทธิภาพมาก รวมทั้งยังไม่มีใครคิดค้น ยานอวกาศที่มีประสิทธิภาพมากหนักและเทคโนโลยียังไม่ดีพอ” หลังจากการสนทนาเรื่อง พี่น้องตระกูล Wright จิมมี่เริ่มสนใจมากขึ้นเกี่ยวกับเครื่องบินและต้องการหาข้อมูลประวัติของ Gustav Whitehead (ชาวเยอรมัน) และแม่เริ่มแนะนำให้ จิมมี่เริ่มหาข้อมูลของการคิดค้นการทำเครื่องบินโดยการบันทึกต่างๆจาก ข้อมูลที่เราได้รับจากการแวะชม museum ก่อนหน้านี้ที่แม่และจิมมี่ได้จดบันทึกและได้ถ่ายรูปไว้มากมาย หลังจากที่เราเอาข้อมูลต่างๆมารวมกัน พวกเราเริ่มค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมจากการเริ่มต้นความคิดค้นการบินนั้นมาจาก Leonardo da Vinci , นักวิทยาศาสตร์ Science and inventions, และศิลปินเอกของโลกเกิดช่วง 1452s และในปี 1485s นั้น Leonardo ริ่มเริ่มคิดค้น และออกแบบรวมทั้งหาวิธีที่มนุษย์สามารถบินร่อนในอากาศเหมือนนกนี้เป็นเรื่องราวของการก้าวแรกของเครื่องบินร่อน และเป็นจุดเริ่มต้นๆของ Flying machine including Parachutes การพัฒนาเครื่องร่อนที่สร้างเพื่อที่จะบรรจุคนและบินร่อนได้แต่ผลกลับไม่เป็นที่พอใจนัก อย่างไรก็ตามแม่และจิมมี่ก็ได้ความรู้เพิ่มขึ้นมา ได้ใช้เวลานี้โดยการเปิดข้อมูลต่างๆ ที่อินเตอร์เนต Leonardo da Vinci , เป็นชาวอิตาลี เกิด April, 1452 เค้าเป็นทั้งศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ของโลกเลยที่เดียวแต่เราจะพูดถึงเฉพาะด้านประดิษฐ์ ด้าน Engineering and Inventions เค้าได้ดีไซค์ โดยมีหลักฐานการ drawing ปี1488 ” Flying Machine”
ย้อนกลับไปในช่วงเวลาหลายปีก่อนๆที่ผ่านมาอย่างรวดเร็ว จำได้ว่าพ่อพาแม่ไปที่บริเวณ Heathrow airport ในประเทศอังกฤษพวกเราได้มีโอกาศดูเครื่องบินคองคอร์ด (อังกฤษ: Concorde) เป็นเครื่องบินขนส่งพาณิชย์ที่มีความเร็วเหนือเสียง เครื่องบินคองคอร์ดที่บินครั้งสุดท้ายในประเทศอังกฤษในปี October, 2003 By British Airway operated บินจาก New York’s JFK International Airport to London Heathrow. ใช้เวลาการเดินทางบินแค่ 3 ชั่วโมง. การชมการบินในช่วงนั้นช่างเป็นความประทับใจอย่างมากแม่เล่าให้จิมมี่ฟังดูลูกให้ความสนใจอย่างใจจดจ่อและแม่ก็หยิบรูปภาพเก่าๆ และตัวอย่างเครื่องบิน concord จำลองอขนาดเล็กประกอบกับเรื่องราวทำให้จิมมี่ยิ่งมีความสนใจมากขึ้น พอตกตอนเย็นหลังจากอาหารคำ่จิมมี่เริ่มหาความรู้ใหม่และเรียนรู้ศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวศัพท์ทางวิทยาศาสตร์และท่องศัพย์ภาษาอังฤษเกี่ยวกับการบินและเครื่องยนตร์อีกเพื่อที่จิมมี่จะได้เป็น Engineer or Scientist (Junior) ความฝันของเด็กๆรุ่นใหม่ๆพวกเด็กก็สามารถเรียนรู้ศัพท์ใหม่ๆ ที่สำคัญสำหรับเด็กเสมอๆในวงการนี้ จิมมี่สามารถหาข้อมูลต่างๆ ได้ทางอินเตอร์เนท (อังกฤษ: Internet) เด็กๆ บางคนเบื่อและไม่ชอบไปเที่ยว museum แต่พอมีอะไรที่เกี่ยวกับเกม (อังกฤษ: game ) และ เทคโนโลยี (อังกฤษ: Technology) ใหม่เข้ามาก็ทำให้เด็กรุ่นใหม่เริ่มสนใจบ้างกับการค้นหาข้อมูลต่างๆ เสร็จการสนทนาก็ถึงเวลานอนแล้วทุกคนในบ้าน ในค่ำคืนคืนนี้จิมมี่ฝันถึงการท่องเที่ยาจากโลกสู่ “ดาวอังคารเนี่ยไม่เห็นเหมือนโลกเราเลย ไม่มีต้นไม้และไม่มีดอกไม้แล้วก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่เลย” จิมมี่เริ่มเข้าใจแล้วว่าพวกเราน่าจะรู้สึกว่าดาวอังคารไม่ได้ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นเลย ไม่มีเพื่อนเลย….ไม่มีสิ่งมีชีวิตเล็กๆอยู่เลย…ความเป็นจริงนั้นทุกคนรู้ว่าในโลกของเรานี้มีทุกสิ่งทุกอย่างที่สมบูรณ์หรือว่าพวกเรามีมากเกินไปบางครั้งเราอาจไม่เห็นคุณค่าสิ่งที่ดีที่สุดก็คือการยอมรับและช่วยกันรักษาช่วยกันปลูกต้นไม้ช่วยกันดูแลสัตว์ป่าและ environment friendly ของพวกเราให้ยาวนานที่สุดที่มนุษย์จะรักษาสมดุลของธรรมชาตินี้ได้ จิมมี่ยังมีความฝันแบบเด็กๆๆในการเดินทางท่องเที่ยวดาวอังคารในฝันนั้นทำให้จิมมีรู้สึกว่าเราเป็นมนุษย์อวกาศผู้ยิ่งใหญ่ที่มาจากโลกที่พัฒนาและประเทศที่พัฒนาที่กำลังเติบโต กลับทำให้เรารู้สึกว่าโลกที่สวยงามของพวกเรานั้นมีแต่สิ่งดีๆมากมาย และพวกเราควรจะดูแลรักษาและพัฒนารวมทั้งพวกเรามีความคิดที่ดีกับการรักษาธรรมชาติมากกว่าจะคอยทำลายธรรมขาติที่ดีดีและสัตว์ป่ารวมทั้งแมลงเล็กๆอาทิเช่น ผึ้งซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรธรรมชาติ…. พวกเรามีเกือบทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อที่จะอำนวยให้เรามีความสุขสะดวกสบาย ส่วนจิมมี่ไม่รู้สึกว่าดาวอังคารน่าตื่นเต้นเลยแต่กลับเป็นแค่การเดินทางเริ่มต้น และเราต้องสร้างและพัฒนาอะไรอีกมากมายซึ่งมันใช้เวลาอีกกี่เดือนรวมเป็นอีกกีปีจะนานเป็นร้อยปีหรือแสนปีหมื่นปีถึงจะสมบูรณ์ตามที่มนุษย์ต้องการ.
ตื่นขึ้นมาจากความฝันจิมมี่เริ่มทำความเข้าใจแบบความฝันของเด็กที่เต็มไปด้วยจินตนาการและความอยากเป็นนัวิทยศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ คงไม่ไกลเกินไปถ้าเปรียบเทียนบกับความฝันที่พวกเราจะมีการเดินทางจากโลกสู่ดาวอังคารที่พวกเรากำลังเฝ้ารอ…. อนาคตดาวอังคารที่เป็นเรื่องใหม่กำลังจะเกิดขึ้นจริง….ในการเดินทางท่องเที่ยว museum ครั้งนี้จะไม่ลืมเลยประเทศอังกฤษ Science Museum และ museum ในประเทศอเมริกา รวมทั้ง Smithsonian museum ทำให้ความฝันของเด็กอย่างจิมมี่ได้ค้นพบว่า การได้ความรู้จากการเดินทางแบบนักวิทยศาสตร์ junior นั้นช่างมหัศจรรย์พอเรามีเวลาแม่พาแวะชม Museum ที่เมืองอื่นๆอีกเช่น Royal Museum Greenwich, National Maritime Museum, Greenwich, London SE10 9NF และส่วนอื่นๆ ที่จิมมี่ต้องการให้แม่พาไปเที่ยวชม Museum ต่างๆในในทุกๆที่ที่แม่สามารถเดินทางไปด้วยกันเช่นในทวีปยุโรปประเทศฝรั่งเศสประเทศเยอรมันรวมทั้งประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทย จินตนาการในการเดินทางท่องเที่ยว Museum และโลกอนาคตของน้องจิมมี่ทำให้แม่เกิดจินตนาการตามไปด้วยในการมีจุดประสงค์ให้น้องจิมมี่เรียนด้านวิทยศาสตร์ นักดาราศาสตร์ (Astronomy )หรือ นักโบราณคดี (Archaeology ) และการกวดขันในการเรียนเรื่องภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์มากๆๆๆ แม่คิดว่าจากประสบการณ์ที่เติบโตมา Museum ให้อะไรได้มากมายและทำให้เด็กมีโลกจิตนการที่ยิ่งใหญ่ในความเป็นจริงนั้นถึงเราจะไม่สามารถเดินทางในโลกอวกาศหรือโลกอนาคตได้จริงๆแต่ก็ทำให้เด็กมีความสุขกับการได้มีจินตนาการในโลกเล็กๆของพวกเขาได้ เลยมองเห็นว่าการที่ปลูกฝังทำให้น้องจิมมี่ชอบการไป Museum และมีความมุ่งมั่นตั้งใจอยากเรียนหนังสือให้เก่งและต้องการเป็นนักวิทยศาสตร์ที่ดีของประเทศรวมทั้งแม่เริ่มจัดตารางในการเดินทางในช่วงฤดูร้อนซัมเมอร์นี้เริ่มพาน้องจิมมี่ไปพิพิธภัณฑ์ที่ประเทศฝรั่งเศสและ เยอรมัน จิมมีเริ่มสนใจในโลกจักรวาลและดวงดาวต่างๆสิ่งที่จิมมี่ชอบมากที่สุดคือ ดาวเสาร์ ( อังกฤษ: Status ) ดาวเสาร์เป็นดาวเคราะห์ที่มีระบบวงแหวนเป็นดาวเคราะห์ขนาดใหญ่มากกว่าดาวเคราะห์อื่นในระบบสุริยะจักรวาล วงแหวนของดาวเสาร์ประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็กจำนวนมากนับไม่ถ้วน ที่มีขนาดตั้งแต่ไม่กี่ไมโครเมตรไปจนถึงหลายเมตร กระจุกตัวรวมกันอยู่และโคจรไปรอบๆ ดาวเสาร์ อนุภาคในวงแหวนส่วนใหญ่เป็นน้ำแข็ง มีบางส่วนที่เป็นฝุ่นและสสารอื่นวงแหวนของดาวเสาร์ช่วยสะท้อนแสง ทำให้มองเห็นความสว่างของดาวเสาร์เพิ่มมากขึ้น แต่เราไม่สามารถมองเห็นวงแหวนเหล่านี้ได้ด้วยตาเปล่า จิมมี่ชอบให้แม่อ่านเรื่องราวของกาลิเลโอในปี ค.ศ. 1610 ซึ่งกาลิเลโอเริ่มใช้กล้องโทรทรรศน์ในการสำรวจท้องฟ้า เขาเป็นกลุ่มคนยุคแรกๆ ที่พบและเฝ้าสังเกตวงแหวนของดาวเสาร์ แม้จะมองไม่เห็นลักษณะอันแท้จริงของมันได้อย่างชัดเจน ปี ค.ศ. 1655 คริสตียาน เฮยเคินส์ เป็นผู้แรกที่สามารถอธิบายลักษณะของวงแหวนว่าเป็นแผงจำนวนรอบๆ ดาวเสาร์ มีแถบช่องว่างระหว่างวงแหวนอยู่หลายช่อง ในจำนวนนี้มีอยู่ 2 แถบที่มีดวงจันทร์แทรกอยู่ ช่องอื่นๆ อีกหลายช่องอยู่ในตำแหน่งการสั่นพ้องของวงโคจรกับดวงจันทร์ของดาวเสาร์ และยังมีอีกหลายช่องที่ยังหาคำอธิบายไม่ได้ ข้อมูลเพิ่มเติมนั้นน้องได้ค้นคว้าจากข้อมูลจากองค์การ ( อ้างอิง จาก NASASaturn’s Rings by NASA’s Solar System Explorat ) แม่บอกเสมอๆ ว่าพวกเราสามารถหาอ่านได้ตามหนังสือหรืออินเตอร์เน็ตทำให้เด็กๆ หาความรู้ที่ตัวเองสนใจน้องจิมมี่เป็นหนึ่งในนั้นที่อยากเรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับสุริยจักรวาลสิ่งที่แม่จะทำให้ได้ก็คือการค้นหาและพาไปเที่ยว Museum ต่างๆเพื่อที่จะให้ลูกมีความตื่นเต้นกับโลกของสุริยะจักรวาลและจินตนาการของโลกอนาคตด้วยตัวเอง วิธีการสอนของแม่ไม่อยากให้จิมมี่ท่องจำหรือเข้มงวดเกินไปจะทำให้เบื่อหน่ายกับการเรียนแต่ที่แม่ต้องการคือ โลกการจิตรการแบบท่องเที่ยวมากกว่า การที่ท่องจำหรือเปิดตำราแล้วสอนตามบทเรียนนั้นแม่คิดว่าลูกจิมมี่จะลืมได้ง่ายหรือจะจำได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆๆ แต่จุดประสงค์สำคัญแม่อยากให้จิมมี่คิดค้นความสามารถของตัวเองด้วยตัวเองโดยการให้แรงบันดาลโดยพาไปห้องสมุดและให้รางวัลโดยการเดินทางท่องเที่ยวทุกครั้งคือต้องมีจุดมุ่งหมายแวะไป museam ทุกครั้งสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวของพวกเรา แม่อยากให้ จิมมี่มี ความคิดเป็นของตัวเองโดยอาศัยความคิดของตัวเองเป็นองค์ประกอบหลักและประกอบกับการหาข้อมูลต่างๆทาง internet หรือ ในวันหยุดสุดสัปดาห์แม่พาจิมมี่ไป นั่งเล่นที่ park และที่ห้องสมุดเพื่อประกอบกับการ ศึกษาเล่าเรียนแบบไม่น่าเบื่อ จนเกินไปบางครั้งเรายืม VDO เกี่ยวกับสาระคดีเรื่องที่จิมมี่สนใจเอากลับมาบ้านแล้วใช้เวลาด้วยกันในวันหยุด แม่มักจะเน้นการอธิบายหรือดูหนัง, วิเคราะห์เรื่องราวและตัวละครที่แทรกข้อมูลต่างๆ และจะจดบันทึกประจำวันหรือประจำสัปดาห์ อาทิ เข่น
August 2017; Date one ; 10.30 am แม่,พ่อ และจิมมี่ พวกเราเดินจากบ้านไปขึ้นรถ bus แล้วต่อรถไฟไป Museum เมือง London : Science Museum ( Exhibition Road, South Kensington, London)
August 2017 Date two ; 9.30 am . พวกเราเดินจากบ้านไปขึ้นรถ bus แล้วต่อรถไฟไป Museum ที่เมือง London อีกครั้ง V&S museum The Victoria and Albert Museum in London is the world’s largest museum of applied and decorative arts and design. It was founded in 1852 and named after Queen Victoria and Prince Albert.
July 2018; Date one ; 9.00 am แม่,พ่อ และจิมมี่ พวกเราเดินจากบ้านไป Heathow Airport to Washimgton DC. USA : Space Science Museum
แม่ชอบให้จิมมีเขียน dairy ประจำวันสำหรับเก็บข้อมูล ของแต่ละครั้งที่ได้เที่ยวชม Museum ต่างๆ
Sent from my iPad
• • •